เรียน.. อ. มีชัย ฤชุพันธ์ ที่เคารพ
ได้อ่านข้อความที่อ. มีชัยตอบคำถามกรณีนายทุนฮุบสื่อ (มีคนมาตั้งคำถามไว้ก่อนหน้านี้) พอจะเข้าใจว่า "กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา" แต่อยากจะสอบถามอ. มีชัยว่า 1.พอจะมีช่องทางตามกฎหมายป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้หรือไม่ เช่น ออกกม.ห้ามเจ้าของสื่อประเภทหนึ่งไปซื้อหุ้นของสื่ออีกประเภทหนึ่ง (สกัดการครอบงำสื่อแบบ "บูรณาการ") หรือออกกม. ห้ามนายทุนแอบซื้อหุ้นของธุรกิจประเภทสื่อจากต่างประเทศ เพราะอันนี้ทำให้การติดตามความเคลื่อนไหวและการป้องกันเป็นไปด้วยความลำบาก 2. เคยได้ยินว่าตอนสสร. ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีสสร. หลายท่านเสนอให้กำหนดข้อห้ามการถือหุ้นไขว้ไปไว้มาไว้ในพ.ร.บ. จัดสรรคลื่นความถี่ หรือพ.ร.บ. กิจการวิทยุกระจายเสียงฯ ตอนนั้นทำไมข้อเสนอจึงตกไป และมีช่องทางจะมาเขียนเรื่องนี้ไว้ในกม. เลยได้หรือไม่ 3. ในต่างประเทศมีประเทศไหนมีกม. ในลักษณะนี้บ้างหรือไม่ และเป็นกม. ในลักษณะไหน
ขอบคุณค่ะ
เรียน คนตามข่าว
1. ไม่มีช่องทางที่จะทำเช่นนั้นได้ เพราะจะขัดต่อเสรีภาพของบุคคล ตราบเท่าที่ไม่เป็นการผูกขาดตัดตอน และยิ่งเป็นบริษัทมหาชนจำักัดที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ การห้ามเช่นนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นการประกันว่าการซื้อขายจะเสรีโดยไม่จำกัดสัญชาติ เว้นแต่ข้อบังคับของบริษัทเองจะกำหนดขั้นสูงของการถือหุ้นของคนต่างชาติไว้ เพื่อรักษาความมีสัญชาติไทยของบริษัทเอาไว้ อันที่จริงสื่อที่เป็นภาษาต่างประเทศนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เป็นต่างด้าวอยู่แล้ว
2. เมื่อตอน สสร.ยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป้าหมายก็คือ ไม่ต้องการจะให้สภาในขณะนั้นแก้ไขใด ๆ แม้แต่คำเดียว วิธีที่จะทำให้เป็นเช่นนั้นได้ ก็คือต้องเอาใจทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ให้ได้รับผลประโยชน์ในแง่ของตนอย่างทั่วหน้ากัน ในขณะนั้น การถือหุ้นไขว้กันไปไขว้กันมามีอยู่แล้ว หากเขียนไว้อย่างที่ว่า ก็จะทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นจากกลุ่มที่จะเสียผลประโยชน์ และเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดเสรีภาพไว้อย่างกว้างขวางเช่นนั้นแล้ว การจะมาออกกฎหมายห้ามในภายหลัีง จึงย่อมเสี่ยงต่อการขัดต่อรัฐธรรมนูญ
3. เท่าที่ทราบในประเทศเสรีนิยม ไม่มีประเทศไหนมีกฎหมายอย่างที่คนอยากให้มี มีแต่เพียงว่าการไขว้กันนั้นต้องไม่มีลักษณะที่จะทำให้เกิดการผูกขาด ซึ่งกฎหมายของไทยก็มีอยู่