ดิฉันได้ซื้อห้องพัก ที่รินรดา คอนโด ถ . เทพารักษ์  จ. สมุทรปราการ  ดิฉันทำตามสัญญาทุกอย่างที่ทางโครงการกำหนดไว้ไม่เคยขาดตกบกพร่องแม้นิดเดียว  เช่น ค่าส่วนกลางต้องชำระตรงกับวันที่ 1 ของทุกเดือน  เกินไม่ได้เลยทางคอนโดจะคิดดอกเบี้ยต่อวัน   ค่าน้ำ ก็จ่ายตามราคาที่คอนโดตั้งไว้  ต้องชำระตรงมิฉะนั้นจะตัดน้ำเลย   ที่จอดรถมีให้ตามที่โครงการลงโฆษณาไว้  โทรศัพท์สายในมีให้ห้องละเครื่องตามข้อตกลงของโครงการ โดยโทรออกครั้งละ 5  บาท  แต่โทรเข้าเจ้าของห้องไม่เสียเงิน  

   ต่อมาดิฉันได้ยืมเงินคุณแม่มาลงทุนจำนวนมาก    จึงได้โอนขายห้องที่คอนโดนี้ให้คุณแม่ไปส่วนหนึ่ง    เมื่อถึงเวลาจะโอนให้ชื่อคุณแม่   ดิฉันได้ไปขอใบปลอดหนี้กับทางโครงการ     แต่เจ้าของคอนโดไม่ยอมเซ็นต์ให้  เพราะจะให้ดิฉันจ่ายเขาอีก 25,000 บาท   โดยอ้างว่า 3 ปีที่ผ่านมา ทางโครงการขาดทุน ได้ทำโรงรถเพิ่ม  และต้องคิดค่าส่วนกลางเพิ่มย้อนหลัง   ดิฉันก็บอกว่า ก็จ่ายให้คุณทุกเดือนไม่เคยขาด แถมไม่ได้เข้ามาอยู่ด้วย เป็นห้องเปล่า ๆ  รถก็ไม่ได้จอด  ใบเสร็จก็ได้มาทุกเดือน ๆ ละ  960  บาท   เป็นอันว่าเขาก็ไม่ยอมทำใบปลอดหนี้ให้ดิฉัน

  ต่อมาทางโครงการบอกว่าใครจะเอารถมาจอดต้องเสียค่าจอดรถเดือนละ  500  บาท  ทั้งที่ตอนแรกในโครงการบอกมีที่จอดรถด้วย      ผู้เช่าห้องดิฉันก็ต้องจ่ายให้เขา   แต่มาวันนี้ทางโครงการบอกว่าไม่ให้ผู้เช่าห้องดิฉันใช้โทรศัพท์ภายใน  คือหมายถึงไม่ให้คนโทรเข้ามาได้ ทางโครงการจะไม่โอนสายให้   นอกจากจะชำระค่าบริการให้เขา  2,500  บาท   คนจึงโทรเข้ามาได้ .โทรออกก็ไม่ได้    ทางโครงการบอกว่านอกจากเจ้าของห้องจะมาอยู่เอง       เจ้าของโครงการนี้ชื่อ ทวีป  ซึ่งเป็นคนที่ร้ายกาจมาก ๆ    ดิฉันไปปิดประกาศขายห้อง หรือให้เช่า  ก็ไม่ได้

   ดิฉันไม่รุ้จะไปต่อสู้อย่างไรกับเขา   คนส่วนใหญ่ก็เป็นผุ้เช่าเขา ถ้าใครเช่าห้องเขาก็ไม่ค่อยมีปํญหาอะไร    เจ้าห้องห้องมีส่วนน้อยมากที่คนโดนี้   เพราะเขาทนไม่ไหวกัน    ดิฉันจะไปร้องเรียนได้ที่ไหนค่ะ  ให้ใครมาตรวจคอนโดนี้จะทำได้แค่ไหนค่ะ

   ตามปกติคอนโดทั้งหลายจะมีนิติบุคคลของอาคารชุดเป็นผู้บริหารจัดการ โดยผู้อยู่อาศัยต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่ที่ประชุมใหญ่ของผู้อยู่อาศัยเป็นผู้อนุมัติ  สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนกลางจะต้องเสียคนละเท่าไร เป็นค่าอะไรบ้างนั้น จะปรากฏในระเบียบข้อบังคับดังกล่าว และตามปกตินิติบุคคลจะเรียกเก็บตามที่กำหนดไว้ในระเบียบ  เมื่อได้ชำระตามที่เขาเรียกเก็บแล้วก็ต้องถือว่าถูกต้อง  ดังนั้น คุณควรจะรวบรวมใบเรียกเก็บเงินที่เขามีมาเรียกเก็บเป็นประจำไว้เป็นหลักฐาน เพราะท่าทางคุณอาจจะเคราะห์ร้ายที่มีผู้บริหารนิติบุคคลที่ไม่สุจริต และท้ายที่สุดอาจจะต้องมีการฟ้องร้องกัน เพื่อบังคับให้เขาต้องปฏิบัติตามระเบียบในการออกใบรับรองในการโอนให้  ซึ่งทั้งหมดคงต้องอาศัยให้ทนายความเขาศึกษารายละเอียดทั้งหมด