เรียน ท่านมีชัยฯ ที่เคารพอย่างสูง
ข้าฯ ขอเรียนถามท่านว่าเป็นหน้าที่และภาระใครที่จะต้องรับผิดชอบ หากเกิการฟ้องร้องและจะแบ่งภาระกันอย่างไร เรื่องมีอยู่ว่า สามีภรรยาจะดทะเบียนสมรสกัน ในระหว่างที่อยู่กินกัน สามีได้ไปขอยืมเงิน (ปากเปล่า) จากบิดาของตนเอง แต่การให้ครั้งนี้มีหลักฐานแสดง เช่น สมุดธนาคารที่ไปถอนเงิน เพื่อนำไปใช้จ่ายและชำระหนี้ที่สองสามีภรรยาร่วมกันทำ ต่อมา สองสามีภรรยาทะเลากันถึงขั้นเลิกราหย่าร้าง และฝ่ายภรรยาไปอยู่เสียที่อื่นแต่งงานและีมีครอบครัวใหม่ทิ้งให้ฝ่ายชายรับภาระหนี้อยู่คนเดียว จนกระทั่งฝ่ายชายได้ผู้ที่มาช่วยใหม่ (แต่งงานใหม่) ช่วยทั้งทางด้านการเงินหนี้สินและเรื่องภาระต่างๆ (รวมทั้งไถ่ถอนที่ดินที่เค้าทั้งสองนำไปจำนองไว้กลับคืนมาได้ (โดยฝ่ายชายได้ยินยอมเซ็นสัญญากู้ยืมเงินให้กับผู้ที่มาช่วยเป็นสัญญาเงินกู้ไว้จำนวนหนึ่ง) จนอยู่มาวันหนึ่งฝ่ายชายโดนฟ้องขอแบ่งสินสมรส จึงกระเทือนถึงเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ก็ฟ้องบ้าง จนเป็นเรื่อง และสรุปไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้ชำระหนี้กันแน่ และที่แน่ๆ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่มีทรัพย์ใดใดอีกเลย หนูฯ อยากทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อค่ะ เพื่อให้ได้รับชำระหนี้ และจะให้ใครชำระ เพราะตอนนี้หนูฯ ในฐานะ (เจ้าหนี้) และภรรยาใหม่ของฝ่ายชายยังไม่เคยได้รับชำระหนี้สักบาทเดียวเลย และตลอดมาก็ต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ทุกเดือน ถ้าหากหนูฯ อยากจะขอให้ศาลฯ ไต่สวนคดีนี้ใหม่ได้ไหม? ค่ะ ท่านฯ กรุณาช่วยบอกหนูฯ มาที หรือว่าเรื่องมันเกี่ยวเนื่องกับคดีที่ฝ่ายชายแจ้งจับฝ่ายหญิงในข้อหาลักทรัพย์ (ตอนที่หย่ากันแล้ว) แต่ศาลยกฟ้องเพราะเห็นว่าทรัพย์ที่โขมยไปเคยใช้ร่วมกัน แต่ฝ่ายหญิงก็ฟ้องกลับฝ่ายชายในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนอีก (จนฝ่ายชายโดนประกันตัวอยู่ 1 ปี) และต่อมาฝ่ายหญิงก็ฟ้องฝ่ายชายและหญิงใหม่ว่าร่วมกันฉ้อโกง (กรณ๊ที่ฝ่ายหญิงใหม่เข้ามาแต่งงานและให้ยืมเงินไถ่ถอนที่ดิน ตามรายละเอียดข้างต้น) โดยทั้งสองสามีภรรยาใหม่รวมถึงบิดาของฝ่ายชายที่ต่างช่วยกันให้เงินฝ่ายชายยืมเงินไปชำระหนี้ก็โดนฟ้องด้วยต้องประกันตัวอยู่อีก 1 ปี โดยฝ่ายหญิงทำการฟ้องเท็จ (บรรยายฟ้อง) / เบิกความเท็จ (ตอบข้อซักถามในศาลชั้นไต่สวนมูลฟ้อง) / นำมารดาฝ่ายหญิงมาเบิกความเท็จอีก จนกระทั่งศาลเชื่อจึงสั่งให้ฝ่ายชายและหญิงใหม่และบิดาฝ่ายชายผิดจริงก็ต้องประกันตัวเป็นคดีอาญา จนกระทั่งมีอยู่คดีหนึ่ง(คดีที่ฝ่ายชายให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน) ตอนอยู่ในศาล ศาลออกนั่งบัลลังก์ ศาลถามฝ่ายหญิงว่าต้องการไอร เห็นฟ้องกันอยู่หลายๆ เรื่อง ฝ่ายหญิงบอกว่าต้องการเงิน 8 แสน ศาลบอกว่ามากไปหรือเปล่าเป็นค่าอะไรกัน ฝ่ายหญิงตอบว่าทุกค่าที่ฝ่ายชายกระทำมาตั้งแต่ต้นจนจบ เจรจากันนับชั่วโมงก็สรุปได้ว่าฝ่ายชายต้องชำระเงินทุกค่าให้ฝ่ายหญิง 250000 บาท โดยฝ่ายหญิงไม่ต้องรับผิดชอบหนี้สินอื่นๆ ด้วย และห้ามฝ่ายหญิงมาแต่ต้องทรัพย์สินฝ่ายชายใดๆ อีก จนกระทั่งถึงวันกำหนดชำระฝ่ายชายก็ขายทรัพย์สินและนำเงินปลดหนี้บางส่วนที่เคยร่วมกันทำ และเหลือบางส่วนก็ส่งให้ฝ่ายหญิงตามสัญญา ส่งได้ไม่นานเงินหมดไม่มีอีกแล้วทรัพพย์สิน ฝ่ายหญิง (เก่า) ก็ฟ้องอีกเป็นการบังคับคดีต่อทรัพย์สิน หนูฯ อยากทราบว่าคำว่าบังคับทรัพย์สินอีก จะรวมมาถึงทรัพย์สินที่หนูร่วมสร้างด้วยหรือไม่อย่างไร ตอนนี้เป็นคดีขั้นบังคับคดีค่ะ และหนูก็จะเอาคืนบ้างโดยจะฟ้องฝ่ายหญิงในข้อหาเบิกความเท็จ / ฟ้องเท็จ / นำพยานมาเบิกความเท็จ การฟ้องของหนูฯ ที่จะฟ้องสามารถกระทำได้หรือไม่ ที่จะทำให้ฝ่ายหญิงเก่าสรุปหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ และเพื่อหนูจะได้รับการชำระหนี้สินมาบ้างในฐานะเจ้าหนี้ (บางส่วนก็ยังดี) และหนูฯ จะเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ หนูฯ เกรงใจอ ท่านฯ มีชัย มากค่ะ ที่คำถามหนูมากสับสน แต่ไม่มีใครให้คำแนะนำหนูได้นอกจากท่านฯ เพราะที่ผ่านมาหนูฯ ก็จ้างทนายชำระเงินครบตามที่ทนายเรียก แต่ทนายก็ทำกับหนูฯ อย่างนี้ คือเรื่องไม่จบ หนูไม่ได้อะไรเลย มีแต่เสียค่าทนาย และก็ไม่สามารถทำอะไรฝ่ายผญิงเก่าได้เลยทั้งๆ ที่เค้าผิด 100 % ค่ะ หนูฯ กราบขอบพระคุณท่านฯ มาณ โอกาสนี้ด้วยที่กรุณาตอบคำถามหนูฯ หนูฯ จะคำตอบค่ะ....