เรียนท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพ
เป็นความทุกข์พอสมควรครับ จะได้ทำใจและเตรียมตัวรับสถานการณ์
แบบว่าไม่มีเจตนาหรอกครับ เป็นเรื่องเกี่ยวโทรศัพท์มือถือ ผมเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยทำงานมาเกือบ 30 ปี เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ผมเห็นเขานำโทรศัพท์มือถือโปรโมชั่นมาตั้งโต๊ะบริการกันเยอะมาก ก็ลองทำดูบ้างเพื่อเป็นรายได้เสริมหลังเลิกงาน และเห็นว่าพอจะมีรายได้ก็ทำต่อมาเรื่อยๆ ประมาณ 3 ปี ผมจึงมีโทรศัพท์ที่ที่ใช้การไม่ได้ เช่น เสีย ถูกตัดสัญญาณเพราะใช้ผิดเงื่อนไขโปรโมชั่นในบ้านและใชังานได้บ้างทั้งหมด 23 เครื่อง ใช้งานได้ 3 เครื่อง สมัยก่อนโทรศัพท์ไม่ใช้ซิมการ์ดครับ บริษัทผู้ให้บริการเป็นผู้เปิดเบอร์ให้ใช้เท่านั้นครับ
แต่ช่วงนั้นเห็นว่ามีเบอร์ที่ไม่ถูกต้องด้วยครับ อันนี้ผมไม่ทราบก็ไปซื้อจากร้านที่จำหน่ายโทรศัพท์ทั่วไปครับ หลักฐานการซื้อขาย ผมผิดเองครับที่ไม่ได้สนใจ และเชื่อมั่นว่าบริษัทคงไม่บกพร่องให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ไง
ต่อมาบริษัท TAC ได้นำกำลังตำรวจตรวจจับทั้งเมือง ผมเองมีทำอยู่ 3 เครื่อง และตรวจค้นในบ้านอีกก็เครื่องที่ใช้การไม่ได้แล้วข้างต้นรวมเป็น 23 เครื่อง คืนนั้นโดนจับกันเยอะครับ แต่ส่วนหนึ่งไม่ยืนยันครับเห็นว่าจ่ายค่าไถ่ไปเครื่องละ 500 บาท ผมเลยโดนเข้าไป 2 ข้อหา 23 กระทง ผมจะสารภาพก็กลัวครับ 23 กระทงๆ ละ 2 ข้อหา ข้อหาละ 1 ปี ผมกลัวจะโดน 46 ปี ถูกต้องไหมครับ อนาคตผมวูบแน่ จึงสู้คดีไปตามความจริงมา 7 ปี กว่าแล้วครับ ทรมานเป็นที่สุด หมดเงิน หมดตัว ครอบครัวแตกแยก ยิ่งเห็นคดีความของคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองนี้เขาหลุดกันง่ายๆ ดีนะครับ อดน้อยใจไม่ได้
ในที่สุดศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกผม 2 ปีครับ ข้อหาละ 1 ปี คือ ความผิด พรบ.ศุลการกร กับความผิด พรบ.คมนาคม คือมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่รอลงอาญา ซึมเลยครับ ผมเลยสู้ต่อ โดยยกสามัญสำนึกของผู้คนทั่วๆ ไป ในการซื้อและใช้โทรศัพท์มือถือครับ ยกคุณงามความดี อายุราชการ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ ลูกผมอายุแค่ 3 ขวบ ภรรยาใหม่ก็แค่แม่บ้านธรรมดา ถามท่านผู้รู้ที่ใจดีทั้งหลายว่าผมจะรอดไหมครับ ???