น้าชายไม่มีภรรยาและบุตร ได้ขอผม ( เป็นลูกพี่สาวน้า ) และ น้องชาย ( ซึ่งเป็นลูกน้าสาว ) มาเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาผมได้ออกจากบ้านมามีครอบครัวของผม ด้วยเหตุที่มีปัญหาไม่เข้าใจกันระหว่างผมกับพ่อบุญธรรม 17 ปีที่ผ่านมาผมลำบากมาก แต่ก็มีกลับมาเยี่ยมเยียนท่านเป็นระยะ ๆ แต่ท่านได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือนที่แล้ว โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ แต่ผมทราบมาว่าขณะที่ท่านนอนป่วยหนักอยู่ ร.พ. น้องชายคิดไม่ซื่อโดยนำท่านใส่รถ ร.พ. นำท่านไปอำเภอเพื่อจะทำพินัยกรรมให้เขาทั้งหมด ( รวมเงินสดและทรัพย์สิน ประมาณ 80 ล้าน บาท ) แต่นายอำเภอไม่กล้าเล่นด้วย บอกว่าไม่กล้าเอาหน้าที่การงานมาเสี่ยง เพราะเมื่อปลัดถามอะไร พ่อบุญธรรมก็ไม่ตอบ และไม่ยอมทำพินัยกรรม จนในที่สุดก็ทำไม่สำเร็จ และเมื่อพ่อบุญธรรมเสียชีวิต น้องชายบอกว่าให้ผมเซ็นยินยอมให้เขาเป็นผู้จัดการมรดก ผมก็เซ็นให้เขาไป เขาก็ไปยื่นศาลแล้วเมื่อ 24 พ.ค 48 ที่ผ่านมา แต่น้องชายได้ให้ทนายทำหนังสือมาให้ผมเซ็นสละสิทธิ์ในมรดก โดยในหนังสือเขียนว่าได้ทำการเนรคุณต่อพ่อบุญธรรมหลายวาระ มี 1. กล่าวหาว่าผมเคยขโมยเงินพ่อมาซื้อบ้าน 2. ว่าผมเนรคุณไม่เคยดูแลพ่อมา 17 ปี 3. กล่าวหาว่าผมไปมีความสัมพันธ์กับสาวใช้ในบ้าน ซึ่งพ่อบุญธรรมผมรัก ( ซึ่งความจริงสาวใช้คนนี้ได้มีความสัมพันธ์กับผมก่อนแล้ว และพ่อบุญธรรมชอบเลยให้ผมจัดการไปขอแม่เขามาให้ท่าน แต่ท่านก็ไม่สามารถทำหน้าที่สามีได้เนื่องจากท่านป่วยมาตั้งแต่หนุ่มแล้ว ) ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อน้องชายผมยังเด็กมากไม่รู้ความ และผมก็ดูแลช่วยเลี้ยงดูน้องชายมาตั้งแต่เด็ก แทบจะเป็นลูกผมได้แล้ว แต่มาวันนี้เขาบอกให้ผมสละสิทธิ์ และจะยกห้องแถวราคา 6 ล้านบาทให้ผมเท่านั้น ถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะฟ้องศาลว่าผมเนรคุณให้ศาลเพิกถอนความเป็นบุตรบุญธรรมเสีย ผมจะไม่ได้อะไรเลย นี่คือน้องแท้ ๆ ที่ผมเห็นมาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอยนะครับ ผมเองลำบากมากและมีลูกสาว อายุ 5 ขวบหนึ่งคน อยากทราบว่า ถ้าเขาฟ้องผม ๆ จะแพ้เขาไหมครับ และเรื่องราวทั้งหมดก็เกือบ 20 ปีแล้ว พ่อบุญธรรมเองก็ไม่เคยพูดบอกผมว่าจะให้ผมไปถอนความเป็นบุตรบุญธรรมจากท่าน ทั้งที่ก็ติดต่อกันเสมอ ๆ และน้องชายยังบอกผมว่าถ้าตกลงกันไม่ได้ น้าชาย คือน้องพ่อบุญธรรมผมจะลงมาจัดการและเขามีพยานหลักฐานมัดผมด้วย เเละมักพูดว่ากระสุนทางใต้ หรือมือปืนทางใต้เขาเยอะนะ เพราะน้าชายผมเขาเข้าข้างน้องชาย และน้าชายก็เคยเป็นตำรวจ ยศพลโท อยู่ประจำทางใต้มา 40 กว่าปีจนเกษ๊ยณแล้ว ผมจึงเกรงว่าเขาเป็นตำรวจมาก่อนย่อมรู้ลู่ทางทุกอย่าง บีบให้ผมรับแค่นั้น ในขณะที่น้องชายได้ไปหมด ตอนนี้ผมเลยบอกน้องชายว่า ผมขอห้องแถว 2 ห้อง และเงินสด 6 ล้าน แล้วผมจะเซ็นสละสิทธิ์เนรคุณอะไรที่เขาต้องการ แต่เขาไม่ยอม บอกว่าขอคิดดูก่อน ผมยากจนมากไม่มีเงินไปสู้คดีกับเขาหลอก แม่ผมเองผมยังไม่มีปัญญาเลี้ยงเลยครับ เงินเดือนผม 9000 ยาท อายุ จะ 50 แล้ว มีเมียมีลูก อาศํยเช่าคอนโดอยู่ จนป่านนี้ยังไม่มีบ้าน ในขณะที่บ้านใหญ่โตที่ผมโตมา น้องชายนอนเสวยสูขกับเมีย และญาติเมีย เขา ๆ อายุ 27 เองครับ ยังไม่ได้แต่งงาน จนพ่อเสียไปเขาก็รู้ว่าผมลำบากจะเรียกผมไปอยู่บ้านสักคำยังไม่มี ทั้งที่ บ้าน 200 ตรว. มี 2 หลัง เขาอยู่คนเดียวแท้ๆ เสียใจด้วยที่น้องชายทำกับเราได้ขนาดนี้ ท่านกรุณาแนะนำผมด้วยครับ ถ้าผมจะสู้คดีผมจะมีสิทธิ์ได้มรดกบ้างไหมครับ เพราะผมไม่มีเงินจะไปจ้างทนายที่ไหน และก็กลัวน้าชายที่เคยเป็นตำรวจเพราะเขาบอกถ้าผมแพ้จะไม่ได้อะไรเลย กรุณาแนะนำผมด้วยครับ
คุณถูกเขาหลอก เพราะการรับบุตรบุญธรรมและการเลิกรับบุตรบุญธรรมเป็นเรื่องเฉพาะตัวของบิดาบุญธรรม ใครอื่นจะไปบอกเลิกแทนเขาไม่ได้ เมื่อบิดาบุญธรรมตายไปแล้ว การเลิกรับบุตรบุญธรรมไม่ว่าด้วยกรณีใด จึงเกิดขึ้นไม่ได้ และเมื่อคุณเป็นบุตรบุญธรรมคนหนึ่ง เมื่อบิดาบุญธรรมถึงแก่ความตายโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ คุณก็ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกนั้นเท่า ๆ กับบุตรบุญธรรมอีกคนหนึ่ง อย่าไปยอมลงชื่อในเอกสารอะไรเป็นอันขาด ในกรณีจำเป็นจริง ๆ ต้องอ่านให้ละเิอียดว่าจะทำให้ตัวเองเสียหายหรือเสียเปรียบหรือไม่ ทางที่ดีควรหาทนายไว้เตรียมสู้คดีและตรวจสอบการดำเนินการของผู้จัดการมรดก สำหรับเงินทองนั้น ถ้าในขณะนี้ยังไม่มีก็อาจตกลงกับทนายความเพื่อจ่ายให้เขาเมื่อตอนที่ได้รับส่วนแบ่งแล้วก็คงได้