สามีของดิฉันเคยเอาที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้ของญาติสองแปลง ตอนหลังญาติหนีหนี้ เจ้าหนี้ฟ้องให้ชำระหนี้ ศาลตัดสินให้เอาที่ดินไปขายทอดตลาดใช้หนี้ ถ้าไม่พอให้ยึดทรัพย์อื่นของสามีมาใช้

คำถามคือ

1.  ดิฉันเป็นภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ดิฉันกลัวว่าถ้าขายทรัพย์จำนองไม่พอใช้หนี้เขาจะมายึดทรัพย์อื่น บ้านที่อยู่ตอนนี้เป็นบ้านที่สามีซื้อมาก่อนแต่งงาน เป็นชื่อสามี (ไม่ใช่ทรัพย์ที่เอาไปจำนองค้ำประกันเงินกู้) ถ้าดิฉันจะให้เขาโอนขายมาให้ดิฉัน เจ้าหนี้เขายังจะสามารถตามมายึดเอาไปได้หรือเปล่า

2.  ถ้าจะซื้อทรัพย์สินอื่นต่อไป เช่น ที่ดิน บ้าน เป็นชื่อของดิฉัน จะถือว่าเป็นทรัพย์ของสามีด้วยหรือเปล่า กลัวเขาจะมายึดเอาไปค่ะ

3.  เงินในบัญชีของสามี ที่มีเงินเข้ามา ดิฉันโอนออกมาใส่บัญชีส่วนตัวของดิฉัน จะถือเป็นการถ่ายโอนทรัพย์สินหรือเปล่า

4.  ทรัพย์สินอื่นที่ติดอยู่กับธนาคาร คือสามีมีที่ดินเล็ก ๆ ที่เอาไปเข้าแบงค์ไว้เอง กำลังผ่อนอยู่ เจ้าหนี้เขาจะมายึดเอาไปได้หรือเปล่า

5.  สมมติว่าเอาทรัพย์สินใส่ชื่อดิฉันไว้ได้ ไม่โดนยึดไป แต่ถ้าดิฉันเสียชีวิตไปภายในสิบปีก่อนหมดอายุความ ทรัพย์สินจะตกเป็นของบุตรและให้สามีเป็นผู้ปกครองบุตรได้หรือเปล่า เจ้าหนี้เขาจะมายึดทรัพย์มรดกที่ว่านี้ไปได้มั้ยคะ

ตอนนี้หมดกำลังใจเลย เพราะหนี้รวมดอกเบี้ยของญาติเยอะมาก สามล้านกว่าบาท ถึงขายทรัพย์ค้ำประกันทอดตลาดก็คงไม่พอ กลัวจะถูกยึดทรัพย์ไป ถ้าเงินที่หามาได้ ใส่ในบัญชีของดิฉันแล้วยังถือว่าเป็นทรัพย์ของสามี ถูกยึดไปได้ เราก็คงหมดตัวแน่ เพราะไม่รู้จะเอาทรัพย์สินไปใส่ชื่อใครแล้ว รบกวนอาจารย์ช่วยตอบปัญหาด้วยนะคะ

    1. ถ้าเจ้าหนี้มีหลักฐานว่าเป็นการสมยอมกัน เขาก็มายึดได้อยู่นั่นเอง

     2. ถ้าเป็นชื่อของคุณ เจ้าหนี้ก็มายึดไม่ได้

     3. ถ้ามีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการโอนมา ก็เป็นการยักย้ายถ่ายเท

     4. ได้

     5. ถ้าเป็นทรัพย์สินของคุณ จะกี่ปี ๆ ก็เป็นของคุณ เมื่อคุณตายไป และไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์เหล่านั้นก็ตกเป็นมรดกตกทอดได้แก่บุตรของคุณ เจ้าหนี้มายึดไปไม่ได้