เรียนถามท่านมีชัย ดังนี้ครับคุณพ่อของผมเพิ่งเสียไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วและทางธนาคารได้ติดต่อมายังผมซึ่งเป็นบุตรชายว่า คุณพ่อมีหนี้จากบัตรเครดิต ประมาณ แสนกว่าๆ และเจ้าหน้าที่จากสำนักกฎหมายที่ได้รับการว่าจ้างจากธนาคาร......ก็โทรมาให้ผมชำระเงินแทน ซึ่งผมก็ไม่มีเงินขนาดนั้นน่ะครับ และทรัพย์สินที่คุณพ่อมี ก็บ้านทาวเฮ้าส์ ซึ่งเป็นบ้านที่ครอบครัวผมอาศัยอยู่ ซึ่งก็เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าอย่างเดียวที่เรามีครับ
ขอถามครับ
1. หากผมไปยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก เท่ากับต้องรับสภาพหนี้ต่อจาก คุณพ่อใช่หรือไม่ครับ
2. ทางธนาคารมีสิทธิ์จะบังคับขายบ้านผมได้หรือไม่
3. หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิตผมต้องส่งใบมรณะบัตรไปที่ธนาคารหรือไม่ (เพื่อแจ้งให้ทราบ)
4. คุณพ่อแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนกับคุณแม่ หากคุณแม่ยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก ธนาคารจะบังคับให้คุณแม่ชำระหนี้ได้หรือไม่
ขอบพระคุณท่านมีชัย เป็นอย่างสูง
เรียน บ๊อบบี้
หลักมีอยู่ว่า แต่ละคนย่อมต้องรับผิดชอบในหนี้สินของตน เมื่อตายไปแล้วหากมีทรัพย์สินอยู่เท่าใด ก็รับผิดชอบเพียงเท่าที่มีทรัพย์สินนั้น ถ้าหมดทรัพย์สินแล้ว หนี้นั้นก็เป็นอันจบสิ้นกันไป โดยไม่สามารถโอนหนี้นั้นไปให้คนอื่นได้ เว้นแต่คนอื่นนั้นจะได้รับมรดกไป ซึ่งก็รับผิดชอบเพียงเท่าที่ได้รับมรดกไป เช่น ถ้าผู้ตายมีหนี้ ๑ ล้าน แต่มีทรัพย์สิน ๑ หมื่น ก็คงรับผิดชอบ เพียง ๑ หมื่น
ส่วนการเป็นผู้จัดการมรดกนั้น หน้าที่สำคัญก็คือ การจัดการทรัพย์สินของผู้ตาย ถ้าผู้ตายมีหนี้อยู่ ก็ต้องจัดการนำทรัพย์สินของผู้ตายไปชำระหนี้ ถ้ามีทรัพย์สินเหลือจึงจัดการแบ่งปันให้แก่ทายาทต่อไป ผู้จัดการมรดกไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้ของผู้ตายเป็นส่วนตัว แต่ในฐานะที่ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตาย ในเวลาที่เจ้าหนี้ฟ้องร้อง เจ้าหนี้จึงต้องฟ้องผู้จัดการมรดก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้จัดการมรดกจะต้องรับผิดชอบในหนี้นั้นเป็นส่วนตัว คงมีหน้าที่แต่เพียงจัดการนำทรัพย์สินของผู้ตายไปชำระหนี้ เมื่อทรัพย์สินหมดแล้ว ถึงหนี้จะยังไม่หมด ก็เป็นอันหมดหน้าที่ของผู้จัดการมรดก
สำหรับบ้านนั้น ถ้าเป็นของผู้ตาย เจ้าหนี้ก็มายึดไปขายได้ แต่ถ้าเป็นของคนอื่น ก็มายึดไปไม่ได้