กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ
     กระผมขอสอบถามท่านอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องอายุความฟ้องร้อง โดยมีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้ครับ
     เรื่องนี้เกี่ยวพันกับเรื่องมรดกระหว่างกระผมกับพี่ชายต่างมารดา
     - โดยพี่ชายเป็นผู้จัดการมรดก
     - จนเมื่อเดือนมิถุนายน 2537 ได้มีการตกลงแบ่งมรดกกัน แต่ละฝ่ายได้อาคารพินิชย์คนละหลัง

     - หลังจากได้กรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว กระผมได้ขายอาคารพินิชย์ให้แก่ผู้อื่นไป

     - ต่อมาประมาณกลางปี 2547 กระผมเพิ่งมารู้ว่า มีที่ดินติดกับตัวอาคารที่กระผมขายให้ผู้อื่นไปแล้วเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งผู้เช่าเดินคือบิดาของกระผม กระผมจึงได้ยื่นเรื่องขอเช่าแทนบิดาที่ถึงแก่กรรม ปรากฏว่ามีผู้มาคัดค้านการเช่าครั้งนี้ 2 คนคือ คนที่ซื้ออาคารไปจากกระผม กับพี่ชายของกระผม จึงได้เข้าตรวจสอบข้อมูลเพื่ออยากทราบว่าเขาทั้งสองเอาเหตุอะไรมาคัดค้าน ซึ่งในวันที่ 7 มกราคม 2548 กระผมได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ขอไปและทราบจากเอกสารนั้นว่า
      -พี่ชายของกระผมเป็นผู้เข้าไปคัดค้านการเช่า อ้างว่าการแบ่งมรดกกันในครั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ ตัวเขายังมีสิทธิจะเป็นผุ้เช่าได้อีก เพราะเป็นทายาทของผู้เช่าเดิมเหมือนกัน และจากเอกสารอีกส่วนหนึ่งว่า พี่ชายของกระผมคนนี้ เคยขอยื่นเรื่องเป็นผู้เช่า โดยอ้างฐานะเป็นผู้จัดการมรดก (แต่ผิดเงื่อนไข จึงไม่ได้เป็นผู้เช่า) ปัจจุบันนี้ เรื่องก็ยังค้างอยู่ที่กรมธนารักษ์ ยังไม่ตัดสินว่ากระผมจะได้เป็นผู้เช่าหรือไม่
     - ส่วนผู้ที่ซื้ออาคารไปจากข้าพเจ้า ก็อ้างว่า เขาควรจะได้สิทธิเป็นผุ้เช่าที่ราชพัสดุ เพราะเขาซื้อาคารไปแล้ว และที่ราชพัสดุก็ติดกับอาคารดังกล่าว

     ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น
     1) ข้ออ้างของทั้งสองคน จะมีผลอย่างไรกับการขอเช่าที่ราชพัสดุของกระผม
     2) หากกระผมจะไปแจ้งความว่า พี่ชายของกระผมปิดบังเกี่ยวกับที่ราชพัสดุนี้ จะได้หรือไม่ / ไม่ทราบว่าจะหมดอายุความแล้วหรือยัง
     3) การปิดบังของพี่ชายกระผมเกี่ยวกับที่ราชพัสดุนี้ จะถือว่ากระผมได้รับความเสียหายหรือไม่ เพราะที่ราชพัสดุนี้ สามารถนำออกให้เช่าหาประโชยน์ได้ หากกระผมจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจะทำได้หรือไม่

     กระผมขอความเมตตา ท่านอาจารย์ ตอบข้อข้องใจแก่กระผมด้วย
     ขอให้ท่านอาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง

     ด้วยความเคารพอย่างสูง

     ผู้มาเยือน 
    

เรียน ผู้มาเยือน

     1. มีผลทำให้คุณเช่าที่โดยตรงจากกรมธนารักษ์ไม่ได้

     2. อายุความในการฟ้องร้องเรียกมรดกมี ๑ ปี นับแต่วันที่เจ้ามรดกตาย

     3. ถ้าเขาปิดบังจริง ก็มีผลทำให้เขาจะถูกตัดออกจากมรดกในทรัพย์สินที่ปิดบังไว้  ถ้าจะฟ้อง ก็ควรฟ้องเพื่อให้เขา ในฐานะผู้จัดการมรดกแบ่งมรดกให้กับทายาท