เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ
ดิฉันมีเรื่องจะขอปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายปรปักษ์ เนื่องจากปัจจุบันนี้ทางบ้านของดิฉันมีเรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับทีดินที่อยู่อาศัย เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณปี 2532 นาย ก ได้พาแม่ของตนมาของอาศัยในที่ดินของยายดิฉัน โดยวันที่มาขออาศัยนั้นมีบุคคลที่รู้เห็นด้วย คือ แม่นาย ก นาย ก และภรรยา ยายของฉัน , แม่และน้าของดิฉัน ซึ่งตอนนั้นดิฉันอายุเพียงแค่ 8-9 ขวบ เท่านั้น และนาย ก ได้บอกกับยายของดิฉันว่าจะขออาศัยปลูกบ้านอยู่เมื่อมีรายได้ มีเงินแล้วก็จะย้ายออกไป โดยที่ดินที่ย้ายของดิฉันให้อาศัย ฉันมีพื้นที่ประมาณ 1-2 งาน ต่อมา แม่ของ นาย ก ตายลง ทางบ้านของนาย กและ ยายของฉันเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยมาก ยายของดิฉันจึงออกมาไล่ (หลังจากอยู่ประมาณ 7-8 ปีให้หลัง) แต่ทาง นาย ก ก็ไม่ยอมย้ายออกไป อยู่กันมาทะเลาะกันเรื่อยมา จนเมื่อประมาณปี 2547 บ้านของนาย ก ขายที่ได้เงินหลายแสน และก็ได้ทะเลาะกับยายของดิฉันที่เริ่มลง พูดจาด่าว่าเสียๆ หายๆ จนพี่ๆ ของดิฉันทนไม่ไหวก็ออกปากไล่ไป ทางฝั่งนาย ก จึงท้าให้ไปฟ้องร้อง ทางบ้านของดิฉันจึงไปฟ้องร้องเรื่องยังไม่ไปถึงไหน ยายของฉันก็มาเสียชีวิตลงเมื่อปลายปี เมื่อฝ่ายดิฉันยื่นฟ้องให้ออกจากที่ดิน ฝั่งนาย ก ก็จ้างทนายโต้กลับมาโดยอ้างว่าทีดินผืนนี้ซื้อจากยายของดิฉันมา ซึ่งแน่นอนมันไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีพยานรู้เห็นและไม่มีสัญญาซื้อขาย แต่ทางนาย ก จะอ้างเรื่องปรปักษ์ เพื่อเข้าครอบครอง หลายคนบอกว่าทางบ้านของดิฉันมีโอกาสแพ้ เพราะเขามีเงินมาก และฝั่งนาย ก ยังพูดอีกว่าจะเอาเงินเข้าสู้คดีและจะทำให้ที่บ้านของดิฉันไม่มีที่อยู่อาศัย
ดิฉันจึงอยากเรียนถามอาจารย์ว่า นาย ก จะสามารถอ้างปรปักษ์เข้าครอบครองได้หรือไม่ ลักษณะทีดิน อยู่ติดกับบ้านยายของดิฉัน (เห็นกันได้ชัดเจน) ไม่ได้กั้นรั้ว ใช้ปลูกบ้านอยู่อาศัย ไม่ได้ปลูกไม้ผลเพื่อการเศรษฐกิจ ออกบ้านเลขที่โดยไม่ได้ขออนุญาตยายดิฉัน ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยตอบขอสงสัย เพื่อความยุติธรรม อย่าให้คนอกตัญญู ลอยหน้ายิ้มเยาะ จัดงานเลี้ยงถ้าชนะคดี ขอบคุณค่ะ
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างที่คุณเล่ามา นาย ก.ก็อ้างการครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ แต่ควรต้องหาทนายความไปดำเนินคดีต่อให้ เพราะการจะพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างที่เล่ามาไม่ใช่เป็นของง่าย