เรียน อาจารย์มีชัยค่ะ ขณะนี้ครอบครัวของดิฉัน กำลังประสบกับปัญหาในเรื่องของที่ดินมรดกของพ่อดิฉันเอง ซึ่งเรื่องราวมีดังนี้ค่ะ ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินของปู่ดิฉัน และปู่ของดิฉันมีลูกทั้งหมด 8 คน ซึ่งลูก ๆ บางคนก็มาจับจองปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัยคนละหลังตามแต่กำลังจะมี แต่ก็มีลุงของดิฉันคนหนึ่งชื่อประเสริฐ ได้ให้ลูกของตนชื่อสมหวัง มาปลูกบ้านโดยห่างจากบ้านของตัวเองประมาณ 100 ตารางวา และพอปู่ของดิฉันเสียชีวิตลง ปัญหาจึงเริ่มเกิดขึ้น เพราะลูกหลานคนอื่น ๆ ซึ่งมีหลายคน ก็เริ่มอยากจะเข้ามาจับจอง ส่วนพ่อของดิฉันได้ออกมาซื้อที่ปลูกบ้านใหม่ใกล้ ๆ กับที่ดังกล่าว เมื่อเร่มมีปัญหาก็มีลุงของดิฉันคนหนึ่งทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก และได้มีการคุยกันเพื่อแบ่งที่ดินกันไปตามสัดส่วน ซึ่งบังเอิญพ่อของดิฉันก็ได้ที่ดินระหว่างบ้านของนายประเสริฐกับนายสมหวัง ซึ่งครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และชอบมีเรื่องกับญาติคนอื่น ๆ รอบข้างอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็รวมกับครอบครัวของดิฉันด้วย และเมื่อแบ่งสัดส่วนกันเรียบร้อยแล้ว ก็มีคนเริ่มทยอยโอนกันไปบ้างแล้ว แต่พ่อของดิฉันยังไม่ได้โอนเพราะเคยจะไปโอนแล้ว แต่ติดปัญหาคนที่มาติดต่อที่ดินเยอะ ผู้จัดการมรดกจึงขอเลื่อนออกไปก่อน จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในครั้งแรก พ่อของดิฉันก็บอกขายกับลูกหลานทุก ๆ คนว่า ถ้าใครอยากได้ก็จะขายให้ในราคา 150,000 บาท แต่ก็ไม่มีใครมาติดต่อขอซื้อหรือว่าสนใจ จนกระทั่งมีคนอื่น ซึ่งรู้จักกันกับครอบครัวของดิฉันอยากได้ที่ดินดังกล่าว และขอซื้อในราคา 250,000 บาท โดยขอร้องว่าให้ช่วยทำรั้วเพื่อกั้นระหว่างนายประเสริฐกับนายสมหวังให้หน่อย เพราะไม่อยากจะมีปัญหากับ 2 คนนี้ โดยจะขอเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เอง และพอพ่อของดิฉันไปสั่งเสาเพื่อจะทำรั้ว 2 คนนี้ก็เริ่มมีปัญหาทันที่ โดยส่งผู้จัดการมรดกมาเจรจาขอว่าไม่ให้ทำรั้ว เพราะกลัวจะไม่มีทางเดิน ซึ่งในโฉนดที่ดินมีทางเดินไว้ให้แล้ว และจะขอให้ขายให้ในราคา 200,000 บาท (ขอร้องแกมบังคับ) ซึ่งพ่อของดิฉันเองก็ไม่อยากมีเรื่อง จึงยื่นคำขาดว่า จะขายให้ก็ได้ แต่ต้องเอาเงินมาให้ภายในวันที่ 5 มี.ค. 48 นี้มิเช่นนั้นก็จะขายให้กับคนที่เขาต้องการจะซื้อทีแรก แต่คนที่ต้องการจะซื้อเข้าใจกันดีกับครอบครัวของดิฉัน ดิฉันจึงอยากถามว่า 1. ถ้าถึงวันที่ 5 มี.ค.48 แล้วทางนายประเสริฐยังไม่เอาเงินมาให้ และจ้องที่จะหาเรื่องหรือกีดกัน ดิฉันควรจะทำอย่างไรเป็นอันดับแรกคะ 2. ตอนนี้เอกสารเกี่ยวกับการโอนที่ดินอยู่ที่พ่อของดิฉัน ถ้าผู้จัดการมรดมาขอยืมหรือขอดู (ซึ่งดูเหมือนว่าจะเอนเอียงไปทาง 2 คนนั้น) ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ 3. ดิฉันอยากขอความกรุณา อาจารย์ ช่วยแนะนำว่าถ้าเหตุการณ์เป็นแบบที่ดิฉันเล่ามา ควรจะทำอย่างไรเป็นลำดับแรกและลำดับต่อ ๆ ไป ด้วยนะคะเพราะตอนนี้ดิฉันเป็นห่วงพ่อและแม่ของดิฉันมาก เพราะอยู่กัน 2 คน (ซึ่งตั้งแต่ทราบเรื่อง ดิฉันนอนไม่หลับเลยค่ะ เพราะดิฉันรักพ่อและแม่ของดิฉันมาก) ส่วนดิฉันต้องมาทำงานที่กรุงเทพฯ (พ่อ-แม่อยู่ที่อยุธยา) และครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะ และถ้าเกิด 2 คนนั้นมากหาเรื่อง โดยจะอาศัยความเป็นพี่ชายมาด่าว่าหรือหาเรื่องพ่อของดิฉัน ดิฉันจะจัดการทางกฎหมายได้อย่างไรบ้างค่ะ ถ้าอาจารย์จะกรุณาขอให้ช่วยตอบข้อสงสัยของดิฉันด้วย จะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ค่ะ
พัชราภรณ์ฯ
เรียน คุณพัชราภรณ์
1. ถ้าถึงเวลาเขาไม่มาชำระเงิน คุณก็หมดพันธะที่รับปากเขาไว้ ดังนั้นจะขายให้ใครก็ย่อมทำได้
2. ไม่แน่ใจว่า "เอกสารเกี่ยวกับการโอนที่ดิน" หมายถึงอะไร ถ้าเป็นโฉนด และได้มีการโอนให้กับบิดาของคุณแล้ว และไม่ไว้ใจผู้จัดการมรดก ก็อย่าได้ให้โฉนดเขาไป ไม่ว่าเขาจะขอยืมดูหรือเพื่ออะไรก็ตามที หากจำเป็นก็ถ่ายสำเนาให้เขาไป ส่วนตัวจริงเก็บไว้ให้ดี
3. ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงไม่กระจ่าง เอาเป็นว่า ถ้าเขามาทำอะไรในทางที่เป็นการละเมิดหรือก้าวล่วงสิทธิของบิดาคุณ ๆ ก็สามารถไปแจ้งความได้