ขอเรียนถามท่านอาจารย์
1. ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาย ก.ค้างชำระหนี้ ต้องการที่จะทำสัญญาซื้อขายกับหน่วยงานแห่งหนึ่ง แต่ต้องการที่จะหลบเลี่ยงเจ้าหนี้ไม่ให้ทราบเพื่อหลบหนีการบังคับคดี จึงได้ขอให้นาย พ.ดำเนินการทำใบมอบอำนาจให้ตนเองเป็นตัวแทนไปทำสัญญาขายสินค้ากับผู้ซื้อ โดยที่นาย พ. ทราบความประสงค์ของนาย ก. ทุกประการ และโดยข้อเท็จจริงแล้วนาย พ.ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการกิจการดังกล่าวใดทั้งสิ้น เพียงแต่ให้นาย ก. ยืมชื่อเท่านั้น เช่นนี้จะถือว่าสิทธิเรียกร้องของฝ่ายผู้ขายคือได้รับเงินค่าสินค้านั้นมีอยู่หรือไม่ และเป็นของบุคคลใด
2.และตามข้อเท็จจริงดังกล่าวหากนาย พ. ไม่ทราบการกระทำของนาย ก. โดยนาย พ. ได้แต่เพียงประมาทลงชื่อในใบมอบอำนาจให้นาย ก. ไปเท่านั้น ผลทางกฎหมายจะเปลี่ยนไปหรือไม่ครับ
คือกระผมขอบังอาจแสดงความเห็นเล็กน้อยว่า กรณี 1. ในระหว่าง ก. กับ พ. เป็นเจตนาลวง แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ซื้อสินค้าไม่ได้ แต่ก็ถือว่านาย ก. เป็นตัวการที่ไม่เปิดเผย ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาซื้อขายกับผู้ขาย และสิทธิเรียกร้องในการได้รับชำระราคาค่าสินค้าเป็นของนาย ก . เจ้าหนี้สามารถอายัดได้
กรณีที่ 2 .ถือว่านาย พ. แสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญของนิติกรรม แต่เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ก็จะถือเอาความสำคัญผิดมาใช้แก่ตนเพื่อปฏิเสธกับผู้ซื้อไม่ได้ คือหากถูกฟ้องก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ถึงอย่างไร ในส่วนของสิทธิเรียกร้องเป็นของใครนั้น กระผมมีความเห็นว่าก็ยังเป็นของนาย ก. อยู่ เจ้าหนี้สามารถบังคับคดีได้
ขอเรียนมาเพื่อตอบข้อสงสัยของกระผมด้วยครับ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง