เรียนถามค่ะ
น้องชายสามีอยากได้บ้าน แต่ไม่มีเงินซื้อ สามีจึงตั้งใจออกเงินซื้อให้ก่อน โดยจะโอนเป็นชื่อของสามีคนเดียว ตกลงกันไว้ว่าถ้าหากน้องชายมีเงินเมื่อไร และต้องการได้กรรมสิทธิ์ก็นำเงินมาซื้อคืนไป หรือถ้าหากไม่ต้องการ ในอนาคตขอให้คืนบ้านกลับมาให้เป็นของลูกสาว(ไม่ได้กำหนดเวลาว่าเมื่อไร) โดยสามีจะไม่เก็บค่าเช่า ไม่มีการทำสัญญาใดๆ ถือเป็นการที่พี่ช่วยน้อง แต่ไม่ทราบว่าถ้านานๆไปน้องชายแสดงเจตนาเป็นเจ้าของบ้าน หากเกิน 10 ปี จะเข้าข่ายกรณีครอบครองปรปักษ์หรือไม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นควรป้องกันตั้งแต่ต้นอย่างไรดี เพื่อให้รุ่นหลานต้องมาทะเลาะกันค่ะ
และอีกกรณีคือ พี่เขยและพี่สาวสามีผ่อนบ้านไว้ตั้งแต่ปี 2537 แต่ภายหลังผ่อนไม่ไหวสามีจึงช่วยซื้อต่อในปี2543 เพื่อไม่ให้บ้านโดนยึดและครอบครัวพี่สาวจะได้มีที่อยู่อาศัย โดยโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของดิฉันซึ่งเป็นภรรยา แต่ก็เป็นเจ้าของบ้านเพียงในนาม เพราะบ้านยังให้ครอบครัวของพี่สาวสามีอาศัยอยู่ โดยที่รู้กันเฉพาะในครอบครัวสามีและครอบครัวดิฉันเท่านั้น การที่อนุญาตให้ครอบครัวพี่สาวสามีอาศัยอยู่ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนด ในอนาคตครอบครัวพี่สาวสามีจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้ไหมคะ เพราะถือว่าช่วยเหลือเขา และตอนนี้ก็ยังต้องผ่อนอยู่ บ้านของพี่สาวนี้อยู่แปลงติดกันน่ะค่ะ
เรียน คุณภัสสร
ในกรณีแรก ถ้าเขาแสดงเจตนาว่าจะครอบครองเป็นของตน เมื่อครบ ๑๐ ปี ก็อาจเข้าข่ายครอบครองปรปักษ์ได้ ทางที่ดีควรทำหนังสือยินยอมให้เขาอาศัยโดยให้เขาลงชื่อด้วย
ในกรณีหลังก็เช่นเดียวกับกรณีแรก