กราบเรียน อ.มีชัยที่เคารพ .. ดิฉันมีปัญหาสงสัยเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่อยากเรียนถามคือว่า..เมื่อวานนี้ ศาลชั้นต้นได้ตัดสินคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งพี่ชายของดิฉันเป็นจำเลยที่ 2 ..ซึ่งถูกจำเลยที่ 1 หลอกใช้ให้ดำเนินธุรกิจค้าขาย (คล้ายแชร์ลูกโซ่ในตจว.) ซึ่งยากที่จะบอกใครว่าเราโดนหลอกใช้.. โจทก์ที่กล่าวหามี 12 คน จำนวนเงินกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งทุกคนกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันฉ้อโกง.. แต่ในการแถลงต่อศาล . โจทก์ส่วนใหญ่ก็ได้แถลงว่า มิได้รู้จักกับจำเลยที่ 2 มาก่อน การเข้าร่วมดำเนินธุรกิจมาจากจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น รวมถึงการแถลงต่อศาลของจำเลยที่ 1 ก็ยอมรับว่า ได้ยืมมือของจำเลยที่ 1 เข้ามาช่วยงาน โดยขอยืมบัญชีธนาคารเพื่อให้โจทก์ทั้งหลายโอนเงินเข้า แต่ในการแถลงต่อศาล จำเลยที่ 1 ก็ได้แสดงรายการเดินบัญชีรับเข้า และจ่ายคืนให้แก่โจทก์ทั้งหมด ซึ่งถ้าเรามอง เราจะเห็นว่า จำเลยที่ 1 รับเงินจากโจทก์ทั้งหมด น้อยกว่าจำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 ได้โอนคืนให้ ซึ่งถ้าพิจารณากันดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่า ตามที่โจทก์ได้อ้างว่าเสียหายรวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาทนั้น มันไม่จริง โจทก์ทั้งหลายได้รับเงินคืนไปมากกว่า 40 ล้านบาทด้วยซ้ำไป .. แต่ในการพิจารณาคดีของศาล .. ศาลตัดสินให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 7 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 40 ล้านบาทตามที่โจทก์กล่าวหา ...
อาจารย์มีชัยคะ พี่ชายดิฉันเป็นจำเลยที่ 2 ไม่รู้เรื่องอะไรเลย(ซึ่งถ้าบอกใครก็คงไม่มีใครเชื่อ) แต่เขาไม่รู้เลยว่าธุรกิจที่จำเลยที่ 1 อ้างว่ามีจริงนั้น มันไม่มีจริง พิ่ชายดิฉันแลเห็นว่า จำนวนเงินที่โอนเข้า โอนคืนให้แก่โจทก์ในแต่ละงวดนั้นมีผลกำไรดี จึงตัดสินใจนำบ้านเข้าจำนองธนาคารเพื่อนำเงินทั้งหมดมาร่วมลงทุนกับจำเลยที่ 1 ด้วย ผลก็คือ หมดตัวไปกว่า 700,000 บาท นี่สิที่ดิฉันเห็นว่าเป็นโจทก์ผู้เสียหายตัวจริง แต่ที่อยากเรียนถามอาจารย์ก็คือ เราควรจะอุทธรณ์ต่อศาลต่อไปดีหรือไม่ พี่ชายดิฉันกลัวว่า ถ้าขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์แล้วเขาอาจจะถูกปรับโทษมากขึ้นหรือเปล่า? .. ดิฉันเองก็ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย จึงอยากขอคำแนะนำจากอาจารย์ด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้
เรียน คุณกรรณิกา
ข้อเท็จจริงที่ว่าพี่ชายของคุณก็ได้เข้าร่วมลงทุน หรือถูกหลอกลวงไปด้วยเช่นกัน ถ้าได้มีการยกขึ้นมาต่อสู้ในศาลชั้นต้นแล้ว ก็ควรอุทธรณ์ต่อไปได้ โดยพยายามเน้นให้เห็นว่าพี่ชายคุณก็เป็นผู้เสียหายด้วยผู้หนึ่ง ถ้าโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็จะไม่เพิ่มโทษอีก