ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    013374 คดีฉ้อโกงประชาชนกรรณิกา10 มีนาคม 2548

    คำถาม
    คดีฉ้อโกงประชาชน

    กราบเรียน อ.มีชัยที่เคารพ  .. ดิฉันมีปัญหาสงสัยเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่อยากเรียนถามคือว่า..เมื่อวานนี้ ศาลชั้นต้นได้ตัดสินคดีฉ้อโกงประชาชน  ซึ่งพี่ชายของดิฉันเป็นจำเลยที่ 2 ..ซึ่งถูกจำเลยที่ 1 หลอกใช้ให้ดำเนินธุรกิจค้าขาย (คล้ายแชร์ลูกโซ่ในตจว.)  ซึ่งยากที่จะบอกใครว่าเราโดนหลอกใช้.. โจทก์ที่กล่าวหามี 12 คน จำนวนเงินกว่า 40 ล้านบาท  ซึ่งทุกคนกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันฉ้อโกง..  แต่ในการแถลงต่อศาล . โจทก์ส่วนใหญ่ก็ได้แถลงว่า มิได้รู้จักกับจำเลยที่ 2 มาก่อน  การเข้าร่วมดำเนินธุรกิจมาจากจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น  รวมถึงการแถลงต่อศาลของจำเลยที่ 1 ก็ยอมรับว่า ได้ยืมมือของจำเลยที่ 1 เข้ามาช่วยงาน โดยขอยืมบัญชีธนาคารเพื่อให้โจทก์ทั้งหลายโอนเงินเข้า  แต่ในการแถลงต่อศาล จำเลยที่ 1 ก็ได้แสดงรายการเดินบัญชีรับเข้า และจ่ายคืนให้แก่โจทก์ทั้งหมด  ซึ่งถ้าเรามอง เราจะเห็นว่า จำเลยที่ 1 รับเงินจากโจทก์ทั้งหมด น้อยกว่าจำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 ได้โอนคืนให้ ซึ่งถ้าพิจารณากันดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่า ตามที่โจทก์ได้อ้างว่าเสียหายรวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาทนั้น มันไม่จริง  โจทก์ทั้งหลายได้รับเงินคืนไปมากกว่า 40 ล้านบาทด้วยซ้ำไป ..  แต่ในการพิจารณาคดีของศาล  .. ศาลตัดสินให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นเวลา 7 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 40 ล้านบาทตามที่โจทก์กล่าวหา ...

    อาจารย์มีชัยคะ  พี่ชายดิฉันเป็นจำเลยที่ 2  ไม่รู้เรื่องอะไรเลย(ซึ่งถ้าบอกใครก็คงไม่มีใครเชื่อ) แต่เขาไม่รู้เลยว่าธุรกิจที่จำเลยที่ 1 อ้างว่ามีจริงนั้น มันไม่มีจริง  พิ่ชายดิฉันแลเห็นว่า จำนวนเงินที่โอนเข้า โอนคืนให้แก่โจทก์ในแต่ละงวดนั้นมีผลกำไรดี   จึงตัดสินใจนำบ้านเข้าจำนองธนาคารเพื่อนำเงินทั้งหมดมาร่วมลงทุนกับจำเลยที่ 1 ด้วย ผลก็คือ หมดตัวไปกว่า 700,000 บาท นี่สิที่ดิฉันเห็นว่าเป็นโจทก์ผู้เสียหายตัวจริง   แต่ที่อยากเรียนถามอาจารย์ก็คือ  เราควรจะอุทธรณ์ต่อศาลต่อไปดีหรือไม่  พี่ชายดิฉันกลัวว่า ถ้าขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์แล้วเขาอาจจะถูกปรับโทษมากขึ้นหรือเปล่า? .. ดิฉันเองก็ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย  จึงอยากขอคำแนะนำจากอาจารย์ด้วยค่ะ  กราบขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้

    คำตอบ

     

     เรียน คุณกรรณิกา

            ข้อเท็จจริงที่ว่าพี่ชายของคุณก็ได้เข้าร่วมลงทุน หรือถูกหลอกลวงไปด้วยเช่นกัน ถ้าได้มีการยกขึ้นมาต่อสู้ในศาลชั้นต้นแล้ว ก็ควรอุทธรณ์ต่อไปได้ โดยพยายามเน้นให้เห็นว่าพี่ชายคุณก็เป็นผู้เสียหายด้วยผู้หนึ่ง  ถ้าโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็จะไม่เพิ่มโทษอีก 

     

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    10 มีนาคม 2548