เรียน อาจารย์มีชัย
ในอบต.ของผม นายก อบต.ได้กล่าวในที่ประชุม(ลับ)ว่า ถ้าท่านได้ส่วนแบ่งจากงานจ้างสิบเปอร์เซนต์ท่านก็รวยแล้ว ตอนนีได้มาแค่สามสี่หมื่นเอาไว้จัดงาน เลี้ยงต้อนรับ พวกผมไม่ทราบว่าจะมีความผิดหรือไม่ ที่จริงมีการทุจริตมากกว่านี้่แต่ตอนนี้มีอินเตอร์เน็ตตำบลเกรงว่าเจ้าหน้าที่ที่เปิดเผยจะได้รับอันตราย ผมเองก็ถูกท่านขู่จะฆ่าถ้ายังมายุ่งกับเรื่องของท่าน พวกเราทราบว่าคอมมิชชั่นเป็นสิ่งปกติไปแล้ว และพวกเรากว่าครึ่งสภา(ไม่รวมผม)กดดันให้ท่านพูดเรื่องนี้่เพื่อจะเอาผิด แต่เจ้าหน้าที่บนอำเภอ(ใหญ่)กล่าวหาว่าพวกเราจะขอส่วนแบ่ง ผมเองไม่รู้จักนายก อบต.ท่านนี้เป็นการส่วนตัว แต่ท่านมาชวนผมถึงบ้านสามสี่ครั้งให้ร่วมทีมเป็นรองนายกโดยรับปากจะให้ทำงาน พวกผมลงขันหาเสียงไปกว่าหมื่นบาท(ให้เงินสดกับนายกท่านนี้)แต่เพียงสามเดือนก็ปลดผมโดยที่ไม่ได้มอบหมายงานอะไรให้ทำเลย ผมไม่ติดใจที่ต้องพ้นจากตำแหน่งแต่สงสารชาวบ้านที่เลือกผมแต่ไม่ชอบนายก อบต.ท่านนี้ อีกประการหนึ่งก็คือผมทราบมาว่า นายกอบต.ท่านนี้ได้ตัดตอนรับเหมางานจ้างของ อบต.ขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งประธานบริหารสมัยที่แล้วแต่เมื่อหมดวาระไม่ทราบว่าความผิดจะหมดไปด้วยหรือไม่ พวกเราหาหลักฐานกันแต่รู้ว่าพวกเขาจะปกป้องกัน ขนาดบ่อนที่บ้านของท่านก่อนจะถูกจับยังทราบล่วงหน้า และผมตกเป็นแพะรับบาบว่าเป็นผู้แจ้งเช่นเคย (อนาคตสังคมของพวกเราจะเป็นอย่างไร)
แต่ก่อนมีปัญหาเกี่ยวกับ อบต. ผม(เป็นชาวบ้านธรรมดา)จะเรียนถามอาจารย์เสมอ แต่ก็ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่เขาปฎิบัติเหมือนกับที่อาจารย์ตอบ(ผมไม่เคยเอาอาจารย์ไปแอบอ้าง) แต่คำตอบของอาจารย์ก็เป็นแนวทางที่ดีให้พวกเราเสมอ ระยะหลังร้านอินเตอร์เน็ตในอำเภอกลายเป็นร้านเกมส์อย่างเดียว ต้องเลยไปตัวจังหวัดเลยไม่สะดวกและตอนนี้ก็ไม่กล้าขอใช้อินเตอร์เน็ตตำบล เพราะปลัดท่านเข้มงวดเหลือเกิน
เรียน คุณสง
เห็นจะจริงอย่างที่คุณว่ามา คือ การเรียกรับเงินทองกลายเป็นของปกติธรรมดาไปเสียแล้ว ซึ่งก็เป็นผลพวงของการที่ใช้ต้นทุนสูงในการหาเสียงเลือกตั้ง