เรียน ท่านอาจารย์ที่เคารพ
กระผมขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์ในเรื่องที่ผมจะไปซื้อที่ดิน โดยมีรายละอียดซึ่งจะค่อนข้างจะวกวนสักนิด ดังนี้นะครับ คือ
1.เจ้าของที่ดินคนที่1(เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดและปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้) ได้นำที่ดินดังกล่าวไปจำนองกับนาย ก. และต่อมาเจ้าของที่ดินคนที่1 นั้นได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากคนที่2 และได้ทำหนังสือสัญญาโอนลอยโดยใช้ที่ดินผืนดังกล่าวชดใช้หนี้สินที่ยืมจากคนที่2(อาชีพทนายความ) ในปัจจุบันยังไม่สามารถโอนที่ดินมาเป็นชื่อคนที่2 ได้เพราะติดจำนองไว้กับนาย ก.ซึ่งจากการติดต่อกันระหว่างคนที่2กับตัวของกระผมนั้น คนที่2บอกว่านาย ก.นั้นเป็นญาติกับที่คนที่2 เองและจะไปถ่ายจำนองแล้วโอนชื่อเจ้าของที่ดินมาเป็นชื่อคนที่2 หลังจากนั้นจึงจะทำสัญญาจะซื้อจะขายกับผมต่อไป (ไม่สามารถโอนมาเป็นชื่อของผมได้เลยจากการโอนลอยไว้ เพราะผมต้องนำที่ดินดังกล่าวไปกู้ซื้อที่ดินพร้อมปลูกบ้านในโครงการของ กบข.ซื่งถ้าโอนมาเป็นชื่อของผมเลยนั้น จะทำให้ไม่ได้ค่าที่ดินเมื่อกู้จากโครงการฯ) กระผมใคร่ขอความรู้และคำแนะนำจากท่านอาจารย์ในเรื่องนี้ด้วยครับว่าผมจะซื้อที่ดินผืนนี้ได้หรือไม่
2.จากข้อ1.ถ้าการตกลงในการซื้อขายผมเป็นผู้ออกเงินค่าโอนและค่าธรรมเนียมต่างๆเองทั้งหมดจาก ขั้นที่1. จากคนที่1โอนมาเป็นคนที่2 และ ขั้นที่2.จากคนที่2มาเป็นชื่อของกระผมนั้น จากการตรวจสอบรายการเสียภาษีของกรมที่ดิน ในขั้นตอนที่1 จะเสีย5%จากราคาประเมินและในขั้นตอนที่2 จะเสีย5%จากราคาประเมินและภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มอีก 3.3%(รวม 8.5%) ทำให้ผมต้องเสียค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียมรวม2ครั้งในอัตราที่สูง มีหนทางปฏิบัติอย่างไรที่ถูกต้องแต่เสียภาษีน้อยลงบ้างครับ เช่น โอนจากการโอนลอยที่ทำไว้โอนมาเป็นชื่อแม่ของผมก่อน ซึ่งขั้นนี้จะเสีย5%จากราคาประเมิน แล้วขั้นที่2 ค่อยโอนจากแม่มาเป็นชื่อผมในลักษณะการให้จากแม่ จะเสียเพียง1%จากราคาประเมิน แต่ในทางการยื่นหลักฐานการกู้ในโครงการ ผมจะทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขายกับแม่ของกระผม ผมจึงใคร่ขอความรู้และคำแนะนำจากท่านอาจารย์ในเรื่องนี้ด้วยครับ ว่าสามารถทำได้หรือไม่
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์และทีมงานอย่างสูงครับ