การกู้ยืมเงิน
เรียน ท่านอาจารย์มีชัย ที่นับถือ
ขณะนี้ข้าพเจ้า มีหมายศาลถึง และนัดให้ไกล่เกลี่ยใน วันที่ 11 มีนาคม 2548 นี้ ความว่าข้าพเจ้าเป็นจำเลยในการกู้ยืมเงิน ซึ่งโจทย์บิดเบีอนความจริง โดยใช้ความเป็นญาติใกล้ชิดให้ข้าพเจ้าเซ็นต์ในสัญญาค้ำประกัน เงินกู้ วงเงิน 50,000.-บาท โจทย์เรียกร้องคืน 65,00.-บาท ซึ่งโจทย์ทราบและรู้ดีว่า โจทย์เป็นผู้ให้ข้าพเจ้านำเงินของโจทย์ไปให้เพื่อนอีกคนยืม และเป็นเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 8 บาท ซึ่งตรงนี้ข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับดอกเบี้ย เพียงแต่โจทย์อ้างว่า เซ็นต์สัญญาฯให้ก่อน ไม่เป็นไรหรอก กันไว้เฉย ๆ หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ได้นำเงินไปให้เพื่อนที่เดือดร้อนกู้ และเพื่อนก็ได้เซ็นต์สัญญาให้ข้าพเจ้า 1 ฉบับ โดยลงเฉพาะบ้านเลขที่ และจำนวนเงินกู้ไว้ให้แก่ข้าพเจ้า ซึ่งตรงนี้โจทย์ไม่รู้เรื่อง และโจทย์ก็ได้รับดอกเบี้ยกับเพื่อนข้าพเจ้าเอง ตรงนี้ไม่ผ่านข้าพเจ้าแม้แต่บาทเดียว (เงินโจทย์ก็รับเอง เพื่อนก็นำส่งโจทย์เอง ) และข้าพเจ้าก็ไม่ได้สนใจกับตรงนี้อีก จนกระทั่งมีหมายมาถึง ข้าพเจ้าจึงรู้ว่า โง่ โง่ เป็นตัวอย่างไร ข้าพเจ้าขอเรียนปรึกษา และท่านพอจะมีวิธีใดช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาแก่ข้าพเจ้าผู้ โง่เขลา ได้บ้าง ดังนี้นะค่ะ
1. ตามกฏหมายข้าพเจ้าเป็นผู้ผิด แต่ข้าพเจ้าไม่มีเงินจำนวนดังกล่าว เงินเดือนก็เหลือ แปดร้อยบาทต่อเดือน ข้าพเจ้าก็ยังต้องกู้เงินสหกรณ์ เพื่อดำรงชีพกับลูกไปเดือน ๆ ข้าพเจ้ามีบุตรต้องดูแล2 คน (ระดับมัธยมต้น และระดับประถมต้น )
2.เพื่อนที่นำเงินไปตอนนี้ติดต่อไม่ได้ ทราบว่าเข้าไปหางานทำที่กรุงเทพ ฯ และสัญญาที่เพื่อให้ไว้นำมาแก้ต่างให้ได้ไหมค่ะ เพราะความจริงเป็นเช่นนั้น
3.ในสัญญากู้ยืมเงินตามกฏหมาย ให้ลงชื่อเจ้าหนี้ได้กี่คนค่ะ จะทำอย่างนี้ได้ไหมค่ะ
ข้าพเจ้า นางแก้ว กลางป่าได้ทำสัญญากู้เงินให้ไว้แก่ นางบิดเบือน อยากได้ และนางโง่ เชื่อง่าย ลงลายมือชื่อ นางแก้ว กลางป่า ผู้กู้ ลงลายมือชื่อเป็นนางบิดเบือน ฯและนางโง่ ผู้ให้กู้
|