1. ถ้าบิดาของเด็กไม่ได้จดทะเบียนรับเด็กนั้นเป็นบุตรของเขา เด็กนั้นย่อมเป็นบุตรของคุณคนเดียว เพราะคุณไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับชาย การที่เขายอมให้เด็กใช้นามสกุลของเขา เป็นเพียงหลักฐานที่จะดำเนินการฟ้องเพื่อให้รับรองเด็กเป็นบุตรได้ แต่ตราบใดที่เขายังไม่ได้รับรอง เด็กนั้นก็ยังเป็นบุตรของคุณคนเดียวอยู่นั่นเอง
2. ถ้าข้อสันนิษฐานเป็นตามที่กล่าวมาในข้อ ๑ คุณในฐานะมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ย่อมสามารถแจ้งเปลี่ยนนามสกุลเด็กได้
3. ให้น้องชายไปยื่นขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
4. ไม่แน่ใจว่าที่ว่าฝ่ายชายร่วมเซ็นต์ถอนด้วยนั้น หมายถึงต่างคนต่างมีสิทธิ์ถอน หรือว่าต้องถอนร่วมกันทั้งสองคน ถ้าเป็นกรณีแรก คุณก็ไปถอนแล้วปิดปัญชีเสีย นำเงินไปเปิดบัญชีใหม่ในชื่อของคุณ แต่ถ้าต้องเซ็นร่วมกันทั้งสองคน ก็คงยุ่งยากหน่อย แต่อันที่จริงเงินสินสอดนั้นตามกฎหายเป็นเงินที่ตกได้แก่ฝ่ายหญิง รวมทั้งเงินที่พ่อแม่ให้เพิ่มเติมมาอีก 200,000 บาท นั้น เมื่อฝ่ายหญิงยกให้แก่คุณ ย่อมเป็นสินส่วนตัวของคุณ
5. ไหน ๆ ก็ทนไม่ได้จนจะเลิกกันอยู่แล้ว อย่าไปทำอะไรอย่างนั้นเลย เพราะจะเป็นบาปกรรมเปล่า ๆ
6. การเรียกร้องค่าเลี้ยงดูจะค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร จึงควรปรึกษาทนายความก่อนดำเนินการ
เป็นบทเรียนว่า อันคนเรานั้น ในยามที่รักชอบกันจะมัวแต่ดูในด้านดีด้านเดียวไม่ได้ ต้องลองพยายามนึกถึงด้านไม่ดีไว้ด้วย เพื่อจะได้รู้ล่วงหน้าว่า จะสามารถทนต่อความไม่ดีเหล่านั้นได้เพียงใดหรือไม่
การประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ย่อมเป็นทุกข์ เป็นของธรรมดา แต่ถ้าลองนึกให้รอบคอบ ก็จะพบว่า ทุกอย่างเมื่อผ่านเข้ามาได้ ก็ย่อมมีวันผ่านไป ถ้ามัวหมกมุ่นกับสิ่งที่ไม่ดีซึ่งในที่สุดก็ต้องผ่านไปนั้นจะเสียเวลาและสุขภาพจิตเกินไปหรือไม่ และจะได้ประโยชน์อะไร
มีชัย ฤชุพันธุ์ 26 กุมภาพันธ์ 2548 |