ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    013209 ผู้จัดการมรดกและมรดกไท22 กุมภาพันธ์ 2548

    คำถาม
    ผู้จัดการมรดกและมรดก

    กราบเรียน คุณมีชัย

    ดิฉันขอรบกวนดังนี้ค่ะ

    ตาและยายของดิฉันมีลูกอยู่ 4 คน (เสียชีวิตไป 1 คน) ได้อาศัยอยู่ร่วมในบ้านเดียวกันซึ่งมีชื่อยายเป็นเจ้าของที่ดินในโฉนด(ไม่ถึง 100 ต.ร.ว.) ต่อมาแม่ของดิฉันได้แต่งงานก็ได้ย้ายออกมา จึงมีป้าอยู่กับน้าและ ครอบครัวของน้า แม่ได้ส่งเสียเงินให้กับตาและยายทุกเดือน ตาก็จะนำไปฝากธนาคารไว้และต่อมาตาได้เปลี่ยนชื่อบัญชีเป็นชื่อน้า เนื่องจากชราภาพจึงให้น้าจัดการโดยเงินในธนาคารเป็นเงินที่ตาขายที่ได้กับเงินที่ได้จากแม่ดิฉัน

    ต่อมาตาและยายได้เสียชีวิตลงและมิได้ทำพินัยกรรมใด ๆไว้ จนกระทั่งได้เกิดปัญหาเมื่อน้าของดิฉันและลูกของน้าซึ่งมีหนี้สินมากมาย ร่วมกันขโมยทรัพย์สิน, ถอนเงินในบัญชีไปหมด(โดยได้ทยอยถอนไปนานแล้ว), โฉนดที่ดิน (ชื่อของยาย), ทะเบียนบ้าน และหนีออกจากบ้านโดยไม่มีใครสามารถติดต่อได้ แม่ของดิฉันจึงได้ขออำนาจจากศาลแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก และได้ไปขอทำโฉนดใหม่ (ใบแทน) (จากวันนั้นถึงปัจจุบันนี้ประมาณ 2 ปีได้)

    และในเดือนนี้น้าดิฉันได้ให้ทนายส่งจดหมายมาให้แม่ของดิฉันซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ให้แบ่งมรดกให้กับน้าที่สำนักงานที่ดิน ถ้าไม่ไปจะดำเนินการตามกฎหมาย ดิฉันขอรบกวนสอบถามดังนี้ค่ะ

    1.ในใบแต่งตั้งผู้จัดการมรดก (ทำเมื่อกลางปี 47) ระบุทรัพย์สินมีเพียงโฉนดที่ดิน มิได้ระบุถึงทรัพย์สินอื่น (เงินในบัญชี,ของมีค่า) แม่ของดิฉันสามารถบอกศาลเพิ่มเติมได้หรือไม่ ต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถอ้างกับศาลได้ว่าทรัพย์สินมิได้มีเพียงที่ดินแต่ถูกน้าเอาไปหมด และ สามารถนำมาหักลบกับส่วนแบ่งของมรดกที่น้าจะได้รับหรือเปล่าคะ

    2.ถ้าแม่ของดิฉัน(ผู้จัดการมรดก) ไม่ไปแบ่งมรดกที่สำนักงานที่ดินตามที่ทนายของน้าบอกได้หรือไม่ โดยจะให้น้าฟ้องศาลเอาเนื่องจากน้าได้ทำความเดือดร้อนให้กับพี่น้องมาก ทิ้งป้าซึ่งอายุเกือบ 90 ปีอยู่คนเดียวและเอาทรัพย์สินของป้าไปด้วย, บ้านไม่เคยดูแลซ่อมแซมเมื่อครั้งยังอาศัยอยู่ เราสามารถอ้างกับศาลได้หรือไม่ถึงพฤติกรรมต่างๆ เพื่อให้ศาลได้พิจารณาว่าทำไมถึงไม่ไปแบ่งมรดกที่สำนักงานที่ดิน

    3.ป้าของดิฉันอายุมากแล้ว และมีอาการหลงบ้าง ต้องการจะยกส่วนที่ป้าจะได้รับมรดกให้กับผู้ที่ดูแลป้าสามารถทำได้หรือไม่ และควรทำอย่างไรถึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

    ไม่ทราบว่าผู้จัดการมรดกสามารถจัดการหรือโอนแทนป้าได้หรือไม่

    4.เนื่องจากน้ามีหนี้สินมากมาย และ ทนายที่ส่งจดหมายมาให้แม่ดิฉันไปที่สำนักงานที่ดิน เป็นทนายของเจ้าหนี้คนหนึ่งของน้า ไม่ทราบว่าการฟ้องให้แบ่งมรดกมีระยะเวลาประมาณเท่าไหร และมีรายละเอียดเกี่ยวกับการแบ่งมรดกหลังจากศาลสั่งอย่างไรบ้าง เช่น ถ้าแบ่งเป็น 3 ส่วน เราก็ต้องรื้อบ้านบนโฉนดที่ดินและแบ่งให้น้าทันทีหลังจากศาลสั่งหรือไม่ อย่างไร (เพราะป้าย้งอาศัยอยู่)

    ขอบพระคุณที่สละเวลาให้กับสังคมและผู้เดือดร้อนค่ะ

    ด้วยความเคารพอย่างสูง

    ไท

    คำตอบ

    เรียน ไท

         1 ในชั้นยื้่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ผู้ยื่นคำร้องเพียงแต่บอกถึงทรัพย์สินของผู้ตายเท่าที่รู้เท่านั้น มิได้หมายความว่าทรัพย์สินของผู้ตายจะต้องมีอยู่เพียงเท่านั้น  ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ในการรวบรวมทรัพย์สินของผู้ตาย เมื่อเป็นผู้จัดการมรดกแล้วและพบว่าผู้ตายมีทรัพย์สินอยู่ที่ไหนก็สามารถติดตามนำมาเพื่อแบ่งปันให้กับทายาทได้

         2. การที่น้านำเงินออกจากบัญชีไปใช้หมด พร้อมทั้งเอาทรัพย์สินอื่นไป ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เบียดบังทรัพย์มรดก อันจะเป็นเหตุให้ถูกตัดจากกองมรดกได้ ควรหารือกับทนาย เพื่อใช้แง่มุมนี้ในการต่อสู้

         3. ถ้ายังไม่ถึงขนาดไม่รู้เรื่อง ก็สามารถทำได้ โดยถ้าจะยกให้เสียตอนนี้ ก็ทำเป็นยกให้ แต่ถ้าต้องการจะยกให้เมื่อตายแล้ว ก็ทำเป็นพินัยกรรมไว้เสียแต่เนิ่น ๆ

         4. การที่ทนายความมีหนังสือมาถึงนั้น เรายังไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามนั้น เพราะทนายความไม่ได้มีอำนาจอะไรที่จะบังคับใครได้  แต่ทางที่ดีควรจะไปหารือกับทนายความของเราเอง

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    22 กุมภาพันธ์ 2548