สวัสดีค่ะอาจารย์ มีปัญหาอยากจะรบกวนอาจารย์หน่อยค่ะ คือตาจดทะเบียนสมรสกับสามี และมีบุตรด้วยกัน 1 คน เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะคะ เพราะสามีทำงานที่ระยอง ตาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ช่วงที่ตาท้อง สามีก็ไปมีภรรยาน้อยค่ะ ตาเพิ่งมารู้หลังจากคลอดลูกแล้ว เพราะเพื่อนของสามีที่ทำงานอยู่ที่เดียวกับสามี และมางานแต่งงานเป็นคนบอกค่ะ ผู้หญิงคนใหม่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานของสามี พอตารู้เรื่องก็โทรไปต่อว่าสามี และขอเลิกแต่ไม่ได้ขอหย่านะคะ โดยสามีก็ยังส่งเงินค่าเลี้ยงดูให้ลูกเดือนละ 3000 สามีหายไปประมาณเดือนกว่า ก็โทรกลับมาง้อขอคืนดี บอกว่าอยากกลับมาเป็นครอบครัว และจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ตาก็เชื่อ ยอมคืนดีด้วย สามีก็มาหาที่บ้านช่วงปีใหม่ มาอยู่คืนเดียว สามีก็กลับไปทำงานตามปกติ แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ คือปิดมือถือ ติดต่อไม่ได้ และไม่ยอมให้ตาไปหาที่ระยอง (สาเหตุที่สามีไม่ให้ตาไปหาที่ระยอง เพราะว่าที่พักของสามีนั้น สามีพาผู้หญิงคนนั้นไปเป็นประจำค่ะ เลยเกรงว่าคนแถวนั้นเค้าจะรู้ว่ามีตัวเองมีภรรยาและลูกแล้ว แต่ยังพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามา คนแถวนั้นเค้าคงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกับสามี แต่คงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้อย) ตาทนรับสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เลยร่างหนังสือสัญญาขอหย่ากับสามี โดยขอค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 5000 บาท แต่สามีไม่ยอมให้ค่ะ บอกว่าจะให้แค่เดือนละ 3000 ตาเลยบอกว่าถ้า 3000 ก็จะไม่หย่าให้ สามีเลยบอกว่าถ้าไม่ยอมหย่าให้ ที่เค้าเคยส่งเสียให้ลูกเดือนละ 3000 เค้าก็จะไม่ส่งให้อีก อยากได้ก็ไปฟ้องร้องเอา
ตาเลยอยากจะถามอาจารย์ว่า ถ้าตาไม่ยอมหย่าให้สามี แล้วสามีไม่ส่งเงินมาให้จริงๆ ตาจะฟ้องร้องได้มั๊ยคะ ฟ้องร้องขอค่าเลี้ยงดู แต่ไม่ได้ฟ้องหย่านะคะ หรือว่าตาควรจะทำยังงัยดี ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ
แม้ว่าตามกฎหมายนั้น สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐา่นะของตน แต่การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าว ก็เป็นเพียงเหตุที่จะทำให้หย่ากันได้ การจะฟ้องให้ส่งเสียเลี้ยงดูโดยไม่หย่ากันจึงเป็นการยากที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากอยู่ด้วย ก็ไม่ควรจะคงทะเบียนสมรสไว้ แต่การหย่ากันโดยตกลงกันเอง หากภายหลังเขาไม่ปฏิบัติตามก็จะต้องไปฟ้องร้องกันอีก ทางที่ดีก็คือ ถ้าไม่ต้องการอยู่ด้วยจริง ๆ ก็ควรฟ้องหย่าและเรียกค่าเลี้ยงดูตัวเองและบุตรให้เพียงพอ เพื่อจะได้อาศัยคำพิพากษาให้อุ่นใจได้