เหตุเริ่มจากที่ บิดาดิฉันได้นำที่ 1 แปลงไปค้ำประกันให้น้องชายท่าน (อา) ซึ่งชื้อผู้กู้ คืออา  และบิดาเป็นผู้ค้ำประกันโดยใช้ที่ดินและยังมีการค้ำประกันส่วนตัวไว้ด้วย  ต่อมาบิดาได้ยกที่ดินแปลงนี้ให้อาไป (ไม่ได้รับเงินใด ๆ ทั้งสิ้น) และขอให้อาติดต่อปลอดภาระค้ำประกันเนื่องจากอายุมากแล้ว(70 ปี)ไม่ต้องการมีภาระอีก

ไม่ทราบว่าอาไปคุยอย่างไรกับธนาคาร  ผลปรากฏว่ามีการเปลี่ยเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินจริง ๆ และบิดาเข้าใจว่าได้ปลอดภาระค้ำส่วนตัวแล้ว ขณะนี้บิดาได้เสียไปแล้ว  และอยู่ ๆ มีหนังสือจากธนาคารแจ้งว่าให้บิดาให้ไปชำระหนี้ ฯ  เมื่อติดตามสอบถามจากอาแล้วอาบอกว่าไม่มีเงินจะชำระหนี้แล้วและถ้าขายทอดตลาดของที่ดินก็ยังจะมีหนี้อีกกว่า 1 ล้านบาทที่บิดาต้องเป็นภาระ (อาไม่แสดงท่าทีว่าจะช่วยเหลือหรือรับผิดชอบใด ๆ  และสอบถามถึงเรื่องค้ำประกันก็อ้างว่าไม่รู้ ให้ถามธนาคารเอง ฯลฯ)   ถ้ามิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฏหมาย  ทรัพย์สินที่เหลือของบิดามีเพียงบ้านอยู่อาศัย 1 หลังเท่านั้นซึ่งทำพินัยกรรมยกให้ลูก  - อยู่ระหว่างการตั้งผู้จัดการมรดกไปดำเนินการ 

1.  ดิฉันควรทำอย่างไรดีเพราะไม่มีทางที่จะชำระหนี้แทนได้เลย ดิฉันทำงานคนเดียวรายได้ไม่มากนัก  ถ้าอย่านั้นบ้านบิดาที่ยกให้อยู่อาศัยจะถูกยึดหรือไม่ หรือจะต้องขายบ้าน  แล้วจะทำอย่างไรเพราะดิฉันยังต้องเลี้ยงแม่และน้องที่ไม่สมประกอบอีกด้วย  และบ้านนี้ยังเป็นที่อาศัยของญาติอีกหลายคน (ล้วนไม่มีรายได้มากนัก เช่นเป็นพนักงานขายของ ฯลฯ)

2  ธนาคารฟ้องร้องมา ศาลจะเชื่อหรือๆไม่ว่าบิดาได้ยกที่ให้ (ไม่ได้เงิน) และต้องการถอนค้ำประกันส่วนตัวออก  -  เพราะไม่มีเหตุผลที่จะยกที่ให้เฉย ๆ

3  เรื่องแบบนี้ถ้าจะต้องปรึกษาทนายความจะมีค่าใช้จ่ายมากหรือไม่  ปรกติคิดค่าใช้จ่ายอย่าไร  และจะไปติดต่อหาทนายที่ไว้ใจได้ที่ไหนดี

ขอขอบคุณในความกรุณามาล่วงหน้า