3.การที่นาย ข.เป็นเจ้าของโฉนดที่ดิน อ้างว่าถ้าภรรยานาย ค. ใช้หนี้ไม่หมด(หนี้ที่กู้ยืมสหกรณ์ซึ่งนาย ข. เป็นผู้ค้ำประกัน) นาย ข.จะยึดเอาที่ดินกับบ้านของนาย ค. หรือนำบ้านและที่ดินของนาย ค.ไปขาย หรืออื่นๆไดหรือไม่
4.ภรรยาของนาย ค.ไปทำเรื่องให้นาย ข.โอนที่ดินเป็นชื่อของคนในครอบครัว แต่นาย ข.กลับปฏิเสธไม่ยอมเซ็นชื่อให้ โดยอ้างว่าให้ภรรยาของนาย ค.ใช้หนี้ให้หมดก่อน เขามีสิทธฺทำได้หรือไม่ แล้วภรรยานาย ค.มีสิทธิ์เรียกร้องได้ไหม
5.แต่ถ้านาย ข.นำไปขาย (เพราะมีชื่อเป็นเจ้าของโฉนด จึงง่ายต่อการทำนิติกรรม ) หมายความว่ายังไงคะ ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆหน่อยนะคะ
อยากช่วยคนอื่นแต่ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมายเลย Thank you
3. การที่ นาย ข.เป็นผู้ค้ำประกัน หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ค้ำประกันได้ และเมื่อผู้ค้ำประกันได้ชำระหนี้นั้นแล้ว ย่อมสามารถไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้ หรือทายาทของลูกหนี้ที่ได้รับมรดกไปได้ (เท่าที่ไม่เกินมรดกที่เขาได้รับ) ในกรณีที่ถามมา ถ้านาย ข. ได้ชำระหนี้ไปแล้ว ก็ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกให้ชำระหนี้ได้ และถ้าทายาทไม่มีเงินชำระหนี้ก็มีสิทธิอาศัยอำนาจศาลบังคับคดีให้มีการขายที่ดินดังกล่าวได้
4. ในทางกฎหมาย นาย ข.ไม่มีสิทธิปฏิเสธการโอนที่ดินให้แก่ทายาท ถ้าเขาปฏิเสธ ภรรยานาย ค.ก็สามารถฟ้องร้องได้ แต่ในทางปฏิบัติถ้าไม่มีการฟ้องร้องกัน นาย ข.คงไม่ยอมโอนที่ดินให้ เพราะคงจะต้องยึดไว้เป็นหลักประกัน เพราะต่อไปเจ้าหนี้ก็คงต้องมาเรียกเอาจากนาย ข.ที่เป็นผู้ค้ำประกัน
5. หมายความว่า เมื่อนาย ข. มีชื่อเป็นเจ้าของโฉนด โดยไม่มีอะไรระบุไว้ในโฉนดว่าเป็นการถือแทนคนอื่น นาย ข. จึงง่ายต่อการที่จะขายที่ดินแปลงนั้นโดยที่คนมาซื้อไม่มีทางรู้ว่าที่ดินนั้นไม่ใข่เป็นของ นาย ข.
ถ้าความรู้ไม่ถึงขนาด การจะไปช่วยคนอื่น ก็ต้องระมัดระวังหน่อย เพราะถ้าแนะนำผิดพลาดก็อาจไปทำให้เขาเสียหายได้