เรียน ท่านมีชัย ที่เคารพ
สมมุติฐานที่ว่า
อย่างไรก็ตามในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใหญ่ในสังคมนี้ ผู้น้อยในสังคมนี้ (ตอนนี้มีหลายคนแล้วครับ) ขอเรียนขอคำแนะนำจากท่านในวิถีคิดของผมข้างต้นด้วย เผื่อว่าชีวิตในสภาพผู้น้อยจะได้มีความสุขเพิ่มขึ้นบ้าง
ขอแสดงความนับถือจากใจจริง
ผู้น้อย
เรียน ผู้น้อย
ข้อเท็จจริงที่คุณว่ามาเกี่ยวกับสภาพของอาจารย์เมื่อเริ่มเข้ามาสู่ระบบของมหาวิทยาลัยนั้น เป็นข้อมมูลใหม่ที่น่าคิด และต้องยอมรับตามตรงว่า ผมไม่เคยคิดมาก่อน ได้แต่สงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าเหตุใดสังคมของอาจารย์ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงความรู้เป็นส่วนใหญ่ ทำไมจึงมีสภาพอย่างที่เป็นอยู่ และเท่าที่เห็นมานั้น สังคมถูกแยกออกเป็น ๒ ส่วน คือ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายคณาจารย์ จริงอยู่อย่างที่คุณว่า และได้สังเกตเห็นด้วยว่า ในระหว่างที่เป็นคณาจารย์นั้น ก็จะระแวงฝ่ายบริหาร และมองว่าฝ่ายบริหารทำอะไรไม่ค่อยจะถูกนัก แต่ในขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะเข้ามาเป็นฝ่ายบริหารแทน หรือมิฉะนั้นก็หาคนที่ตนนึกว่าจะดีกว่ามาแทน แต่ครั้นเมื่อถึงคราวเปลี่ยนผู้บริหาร คณะที่เข้ามาใหม่ ก็จะทำอย่างเดียวกัน หรือบางทีก็มากกว่า และที่สำคัญคณาจารย์ที่ยังไม่ได้เข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร ก็จะมองฝ่ายบริหารอย่างเดิม
การออกกฎใด ๆ ในมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมา ได้ใช้วิธีการของระบบราชการ (เพราะมหาวิทยาลัยก็อยู่ในระบบราชการ) การตรวจสอบจึงเป็นไปในลักษณะ ตรวจสอบก่อน และทำทุกขั้นตอน และเมื่อทำถูกขั้นตอนแล้วหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ เพราะถือเอา "การทำถูกต้องตามระเบียบ" คือ "ความสัมฤทธิ์ผล" ในยุคที่ราชการเป็นใหญ่นั้น การทำเช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกฝ่ายต้องอดทนรอจนกว่ากระบวนการของราชการจะได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วน แต่ยุคสมัยนี้ "ราชการ" มิได้เป็นใหญ่อีกต่อไปแล้ว แนวคิดได้เปลี่ยนเป็น การแข่งขัน การทำให้ประชาชนสมประสงค์ และผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน อยู่ที่ผลสำเร็จของงานมากกว่า "เพียงทำตามระเบียบ" การปฏิบัติรูประบบของราชการ (ซึ่งรวมทั้งมหาวิทยาลัยด้วย) จึงต้องดำเนินการให้สอดคล้องกัน ถ้าเราไม่สามารถวางใจ "คนในระบบ" ได้บ้างเลย ทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบล่วงหน้า ย่อมยากที่จะทำงานให้เกิดผลสำเร็จได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า การตรวจสอบ จะไม่มี เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบของการตรวจสอบไปบ้าง จากการที่ข้าราชการไม่ต้องคิดอะไรเลย เพียงแต่ทำให้ถูกต้องตามระเบียบก็เพียงพอแล้ว เป็นว่า ข้าราชการจะต้องรับผิดชอบในผลที่เกิดขึ้นด้วย การตรวจสอบจึงอยู่ที่ผลสำเร็จของงาน มากกว่าการวางระเบียบให้เคร่งครัดจนกระดิกตัวไม่ได้