MeechaiThailand.com

ความคิดเสรีของมีชัย

เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว

เรื่องสั้น

จดหมายถึงนาย

	นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
	การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
	ค่าส่วนกลาง
	ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
	ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด


	ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม

ปิดหน้าต่างนี้

คำถามที่	หัวข้อคำถาม	โดย	วันที่
012350	เกณฑ์ในการกำหนดเงินเดือนอธิการบดี	ผู้น้อย	9 พฤศจิกายน 2547

คำถาม

เกณฑ์ในการกำหนดเงินเดือนอธิการบดี
เรียนท่านมีชัยที่นับถือ วันนี้มีข่าวทาง ITV แจ้งว่าเงินเดือนของอธิการบดีของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง มากกว่าเงินเดือนของนายกรัฐมนตรีเสียอีก ฟังดูแล้วไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้ พอดีเคยได้ยินเรื่องการขึ้นเงินเดือน ปปช. ซึ่งตัวเลขก็น้อยกว่านี้มาก แต่ก็มีคนบอกว่าไม่ถูกต้อง อยากจะทราบว่ามีกฎเกณฑ์ของรัฐในเรื่องเงินเดือนหรือเงินค่าตอบแทนให้ศึกษาได้ที่ไหน และเขาใช้เกณฑ์ใดในการกำหนดเงินเดือนจำนวนมากๆ เช่นนี้ครับ ขอแสดงความนับถือ ผู้น้อย

คำตอบ

เรียน ผู้น้อย ไม่เพียงแต่อธิการบดีเท่านั้นหรอกที่มีเงินเดือนสูงกว่านายกรัฐมนตรี องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจทั้งหลายก็ล้วนแต่มีเงินเดือนสูงกว่านายกรัฐมนตรีทั้งนั้นแหละ เพียงผู้จัดการกองทุนบำเหน็จบำนาญ ก็มีเงินเดือนสูงกว่าหลายเท่า ทั้งนี้เพราะเงินเดือนของนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ได้ขึ้นอยู่บนฐานของความเป็นจริง เห็นมีอาจารย์บางคนไปปล่อยข่าวกับนิสิตว่าการออกนอกระบบจะทำให้มหาวิทยาลัยต้องขึ้นค่าหน่วยกิต และเลยเถิดไปถึงว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยกำลังขึ้นค่าหน่วยกิตจนต้องชักชวนกันออกมาประท้วง คนที่เป็นครูบาอาจารย์น่ะ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเอาข้อมูลเท็จไปให้นิสิต หรือไปทำการใดให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรของตน อาจารย์ควรจะรู้ดีว่า ค่าหน่วยกิตจะถูกหรือแพงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอยู่ในระบบหรือออกนอกระบบ หากแต่ขึ้นอยู่กับการอุดหนุนของรัฐ ว่าจะจัดสรรเงินงบประมาณให้มากน้อยเพียงใด ถ้ารัฐบาลจัดสรรเงินให้เพียงพอ ค่าหน่วยกิตก็ถูกลง แต่ถ้าจัดสรรให้น้อย (ในปัจจุบันจัดสรรให้ประมาณ ร้อยละ 40 - 50 ของรายจ่ายจริง) ค่าหน่วยกิตก็ต้องแพง เพราะมหาวิทยาลัยทั้งหลายไม่ได้มีรายได้ทางอื่นใด นอกจากนั้นบรรดาอาจารย์ทั้งหลายเมื่อสอนครบตามที่กำหนดไว้สำหรับวาระงานแล้ว ชั่วโมงที่เกินกว่านั้นก็ต้องจ่ายเงินค่าสอนให้อีกต่างหาก บางคนได้อีกเดือนละแสนครึ่งแสน เงินเหล่านั้นจะมาจากไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่จากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ต้องมาจากค่าหน่วยกิต แต่ไม่ว่าค่าหน่วยกิตจะถูกหรือแพง มหาวิทยาลัยก็ต้องหาทุนไว้สำหรับคนที่มีปัญญาแต่ขาดแคลนเงิน เพื่อที่จะได้มีโอกาสทัดเทียมกับคนที่มีเงิน ข้อสำคัญคนที่เป็นอาจารย์ต้องรู้ดีว่า การที่มหาวิทยาลัยทั้งหลายดำเนินการเพื่อออกนอกระบบ มิใช่เป็นความคิดริเริ่มของมหาวิทยาลัย หากแต่เป็นการถูกบีบบังคับมาจากรัฐบาลก่อน ที่ไปตกลงกันไว้กับกองทุนต่างประเทศ ที่สำคัญบุคลากรของมหาวิทยาลัย ล้วนแต่มีส่วนร่วมกันในการดำเนินการมาแต่ต้น ตั้งแต่ปี 2541 มาแล้ว การบิดเบือนข้อเท็จจริงนั้น ถ้าไม่อายผีสางนางไม้ ก็ต้องอายแก่ใจตนเองกันบ้าง มีชัย ฤชุพันธุ์ 7 พ.ย. 2547

มีชัย ฤชุพันธุ์
9 พฤศจิกายน 2547