MeechaiThailand.com

ความคิดเสรีของมีชัย

เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว

เรื่องสั้น

จดหมายถึงนาย

	นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
	การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
	ค่าส่วนกลาง
	ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
	ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด


	ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม

ปิดหน้าต่างนี้

คำถามที่	หัวข้อคำถาม	โดย	วันที่
012310	โครงการรับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนการรับคืนเงินประกัน	แก้ว	5 พฤศจิกายน 2547

คำถาม

โครงการรับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนการรับคืนเงินประกัน
สืบเนื่องจากทาง ทศท มีโครงการรับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนการรับคืนเงินประกัน ตามรายละเอียดที่ทราบแล้วนั้น ขณะนี้ทางผู้ที่ได้รับสิทธิ ได้รับเครื่องตามสิทธิที่ทาง ทศท ได้กำหนดไว้มาแล้ว แต่มีเหตุไม่พร้อมที่จะเปิดใช้บริการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากยังมีภาระอยู่กับสิทธิที่ไดรับอยู่ในระบบเดิม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายทางด้านโทรศัพท์เป็น 2 เท่าโดยไม่จำเป็นของผู้ใช้บริการ จึงขอแจ้งระงับการใช้ชั่วคราวไปยัง ทศท ในโครงการดังกล่าว (โทร 1776) ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถกระทำตามที่ต้องการได้ ทางโครงการจะเปิดให้ใช้เบอร์อัตโนมัติภายหลังรับเครื่องประมาณ 5 วัน ไม่ว่าจะมีการใช้หรือไม่ก็ตามก็จะถูกเรียกเก็บค่าบริการ 300 บาท ตามรอบบัญชีที่กำหนดของทางโครงการ และไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเป็นเงินได้ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้นเพราะได้รับเครื่องไปแล้ว จึงมีคำถามว่า 1. การรับมอบเครื่องโดยกำหนดระยะเวลาไว้ ถ้าไม่ไปรับถือว่าสละสิทธิ 2. ไม่สามารถขอคืนสิทธิในการรับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเงินแทน 3. ไม่สามารถแจ้งระงับการใช้เครื่องชั่วคราว 4. ไม่ว่าจะมีการใช้หรือไม่ก็ตามก็จะถูกเรียกเก็บค่าบริการ 300 บาท ตามรอบบัญชีที่กำหนด 5. ความล่าช้าของโครงการประมาณ 2 ปี ยังไม่มีผู้ออกมารับผิดชอบ ทั้งนี้ข้อกำหนดต่างๆไม่ได้กำหนดไว้ในหนังสือแจ้งความจำนงตั้งแต่แรก เป็นการกำหนดภายหลังการส่งมอบเครื่องซึ่งเป็นภาวะจำยอมของผู้แจ้งความจำนง ข้อกำหนดดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการเอารัดเอาเปรียบและลิดรอนสิทธิของผู้บริโภคหรือไม่ เรียนมาเพื่อพิจารณาและขอคำแนะนำ

คำตอบ

เป็นการเอาเปรียบอย่างยิ่ง ลองร้องไปยังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาดู บางทีอาจจะได้เรื่องบ้าง มีชัย ฤชุพันธุ์ 3 พ.ย. 2547

มีชัย ฤชุพันธุ์
5 พฤศจิกายน 2547