ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    012021 คุณหญิงจารุวรรณPongpunt Pungchai24 กันยายน 2547

    คำถาม
    คุณหญิงจารุวรรณ
    อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรึ่องยุ่งที่คตงกับวุฒิสภา เกี่ยวกับคุณหญิงจารุวรรณ อาจารย์มีทางออกไหมครับถ้าจะให้คุณหญิงกลับมาทำงานในตำแหน่งผู้ตรวจอีก
    คำตอบ
    บ้านเมืองนั้นต้องมีกติกา เมื่อกติกากำหนดว่า ในกรณีที่มีปัญหาว่ากติกาหมายความว่าอย่างไร และกติกากำหนดให้มีองค์กรสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ทั้งยังกำหนดว่าเมื่อชี้ขาดแล้วทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามนั้น เมื่อกติกาว่าไว้อย่างนี้ ในบางครั้งบางคราวแม้เราจะไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย แต่ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามนั้น มิฉะนั้นบ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ อันกติกานั้น เมื่อกำหนดขึ้นแล้ว ก็ต้องใช้บังคับกับทุกกรณีและทุกคนเสมอเหมือนกันหมด ในบางกรณีเมื่อใช้กติกานั้นกับคนที่เราไม่ค่อยรักนัก เราก็จะรู้สึกว่า "ดีแล้ว" แต่พอกติกาเดียวกันนั้นมาใช้กับคนที่เรา "รัก" หรือ "ชอบ" เราก็อาจจะเกิดความรู้สึกว่า "ชักไม่ดีแล้ว" แต่ก็ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า อันคนที่เรา ไม่ชอบนั้น ก็จะมีคนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยที่ "รัก"หรือ"ชอบ" ในขณะเดียวกันคนที่เรา "รัก" เพราะนึกว่าเป็นคนดี ก็จะมีคนอีกไม่น้อยที่ ไม่รักหรือไม่ชอบ เพราะนึกว่าไม่ดีจริง ถ้าอาศัยแต่เพียงความรู้สึก รัก หรือ ไม่รัก เป็นเครื่องตัดสินใจ ความมี ขื่อแป ก็จะหมดไป และอาจถึงกับยกพวกตีกันได้ การจะเป็นประชาธิปไตย หรือรักษา "กติกา" ของสังคมให้คงเส้นคงวา นั้น บางทีก็ต้องรู้จัก "อุเบกขา" ในผลที่เกิดขึ้น ส่วนในทางวิชาการ (ถ้าเป็นวิชาการจริง) ก็ปล่อยให้เขาถกเถียงกันไป ข้อสำคัญต้องเข้าใจว่า การเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัย ตามที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกประการหนึ่ง การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ตรงกับที่เราต้องการหรือที่เราคิดหรือมีความเห็น จะไปกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญทำผิด หรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ดี เห็นจะไม่ได้ คนที่คิดหรือทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในคราบอะไร ก็หนีไม่พ้นความเป็น "เผด็จการ" โดยสมบูรณ์แบบ วุฒิสภานั้น เป็นองค์กรอิสระ ที่เป็นหลักของบ้านเมือง มีทั้งอำนาจและหน้าที่ การจะคงความเป็นหลักดังกล่าวได้ ก็ต้องใช้อำนาจโดยคำนึงถึงหน้าที่ควบคู่กันไป และต้องใช้อำนาจนั้นตามกติกา และเคารพในกติกา ถ้าเมื่อไรวุฒิสภาไม่รู้จักรับรู้ในกติกา หรือไม่รักษาหน้าที่ของตน (พร้อม ๆ กับการใช้อำนาจ) ความเป็นหลักของบ้านเมืองก็คงล้ม เรื่องบางเรื่องวุฒิสภาก็มีอำนาจเด็ดขาด ในกรณีเช่นนั้นเมื่อวุฒิสภาใช้อำนาจนั้นแล้ว ใครก็จะไปโต้แย้งหรือไม่ปฏิบัติิตามไม่ได้ ในขณะเดียวกัน องค์กรอื่นต่างก็มีอำนาจเด็ดขาดของตน ซึ่งวุฒิสภาก็ต้องเคารพเหมือนกับที่คนอื่นเคารพในอำนาจนั้น การเคารพในอำนาจของคนอื่นนี่แหละ คือ "หน้าที่" สำคัญที่จะต้องรักษาไว้ ในกรณีใดที่อำนาจขององค์กรใด ไม่ใช่อำนาจที่เด็ดขาด องค์กรนั้นก็ต้องคอยฟังคำชี้ขาดขององค์กรผู้มีอำนาจเด็ดขาด การไม่รู้จักในอำนาจหน้าที่ของตน กระทำการในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามกติกา บางทีก็สร้างผลร้าย และผลกระทบที่รุนแรงจนยากที่จะแก้ไข กลายเป็น "แผลเป็น" ที่ลบไม่ออกได้ และเมื่อองค์กรสูงสุดที่มีอำนาจได้วินิจฉัยแล้วว่าการกระทำดังกล่าวที่ผ่านมาเป็นการไม่ชอบ หากยังไม่รับรู้ และดำเนินการอย่างใดต่อไปในทางที่ไม่เป็นไปตามกติกา นอกจากจะสร้างผลร้ายต่อสังคม ต่อระบบการบริหารประเทศอย่งรุนแรงแล้ว วุฒิสภาก็จะยิ่งเสียหลัก และจะไม่ต่างอะไรกับเด็กนักเรียนอาชีวะบางกลุ่มที่พอไม่ใจอะไรก็ยกพวกเข้าตีรันฟันแทงกัน แล้วจะเหลืออะไร อันที่จริงวุฒิสภาในฐานะเป็นองค์กรทางนิติบัญญัติผู้มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากวุฒิสภาเห็นว่าการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามแนวทางที่ควรจะเป็น ก็อาจแก้ไขได้โดยวิธีรณรงค์ร่วมกับนักวิชาการที่เห็นสอดคล้องกันเพื่อชักชวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เข้าชื่อกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ วางกติกาเสียใหม่ให้ชัดเจนตรงตามแนวทางที่ตนต้องการได้ อำนาจนั้น ไม่ว่าจะเด็ดขาดอย่างไร วันหนึ่งก็จะต้องถูกตรวจสอบไม่ทางใดทางหนึ่งได้เสมอ หากผู้ใช้ มิได้ใช้อย่างระมัดระวัง คำนึงถึงกติกาอย่างรอบคอบ หรือโอนอ่อนผ่อนตามไปกับกลวิธีที่ "ไม่งาม" ในที่สุดผลร้ายก็จะเกิดขึ้น ต่อคำถามที่ว่าแล้วคุณหญิงจารุวรรณเธอจะกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมได้อย่างไร คำตอบก็คือ เมื่อคุณหญิงจารุวรรณเป็นคนดี ก็ต้องเดิมตามกติกาที่มีอยู่ คือไปเริ่มต้นสมัครเพื่อรับการสรรหา และคัดเลือกใหม่ ถ้าทำอย่างนี้แล้วยังไม่ได้รับการคัดเลือกก็ทำใจอุเบกขา และหาทางทำประโยชน์ทางอื่นต่อไป เหมือนกับคนดีอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกในตำแหน่งสำคัญ ๆ มีชัย ฤชุพันธุ์ 23 ก.ย. 2547
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    24 กันยายน 2547