ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
ค่าส่วนกลาง
ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด
มุมของมีชัย
ถาม-ตอบ กับมีชัย
ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่
ส่งคำถาม
คำสำคัญ
ค้นหาใน
หัวข้อ & เนื้อหาคำถาม
ผู้ส่งคำถาม
เลือกประเภทคำถาม-ตอบ
>
การเมือง
|
กฏหมาย
|
เศรษฐกิจ
|
ทั่วไป
|
มรดก
|
แรงงาน
|
ท้องถิ่น
|
มหาวิทยาลัย
|
ราชการ
|
ครอบครัว
|
ล้มละลาย
|
ที่ดิน
|
ค้ำประกัน
|
22128 ค้ำ
|
archanwell.org
|
ล้างมลทิน
|
24687
|
hhhhhhhhhhh
|
คำถามทั้งหมด
... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม
ปิดหน้าต่างนี้
คำถามที่
หัวข้อคำถาม
โดย
วันที่
011919
อำนาจของ ปปง.
ประวิทย์
17 กันยายน 2547
คำถาม
อำนาจของ ปปง.
เรียนอาจารย์มีชัย ผมมีคำถามเกี่ยวกับอำนาจของ ปปง. ที่ท่านรองนายก วิศณุบอกว่า สามารถย้อนหลังได้ แม้กระทั่งไปถึงสมัยพระเจ้าลิไทโน่น เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้แล้ว อยากจะทราบว่า 1. สามารถย้อนหลังไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือครับ (ศาลรัฐธรรมนูญตีความเอาไว้ชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือครับ) ยกตัวอย่าง เช่นสมัยก่อนเรามีโรงฝิ่น แต่สมัยปัจจุบันฝิ่นถือเป็นยาเสพติด และใครขายฝิ่นก็ผิด ตาม พรบ.ยาเสพติด ซึ่งเป็นฐานความผิดของพรบ.ฟอกเงิน หมายความว่าปปง.สามารถจะไปยึดทรัพย์ที่มีในปัจจุบันของลูกหลานเจ้าของโรงฝิ่นได้หรือครับ 2. ในอนาคตถ้ามีการเพิ่มฐานความผิดเข้าไปอีก เช่น เรื่องการพนัน และ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เข้าไปผมคิดว่าประชาชนทุกคนต้องถูกยึดทรัพย์ทั่วประเทศแน่นอน เพราะผมคิดเอาเองว่าทุกคนน่าจะเคยเล่นการพนัน (เล่นหวย เล่นไพ่) สักอย่างมาแล้วตั้งแต่เกิดมาหรือ แม้กระทั่งการส่ง SMS เข้าไปในรายการต่างเพื่อแสดงความคิดเห็น แล้วมีการแจกของรางวัล ถ้าในอนาคตมีการเพิ่มฐานความผิดการพนันเข้าไป แล้วการส่ง SMS นั้นเป็นการพนัน(ผมคิดว่าเป็นการพนัน) คนส่งSMS เจ้าของรายการ และเจ้าของเครือค่ายโทรศัพท์มือ(ในฐานะผู้สนับสนุน ไม่ถูกยึดทรัพย์หมดหรือครับ ส่วนพวกบริษัททัวร์ก็มีบริการแลกเงินให้กับลูกค้าเวลาจะไปเที่ยวต่างประเทศ มิต้องถูต้องถูกยึดทรัพย์หมดหรือครับ ผมมีความคิดเห็นว่าพรบ.ฟอกเงินนี้น่ากลัวมาก และ น่าจะมีการแก้ไขดังนี้ครับ 1. ต้องไม่มีการย้อนหลัง หมายความว่าพรบ.นี้ไม่น่าจะยึดทรัพย์ของคนที่ทำความผิดก่อนการออก พรบ.ฟอกเงิน และไม่น่า จะยึดทรัพย์ของคนที่ทำความผิดก่อนการออก พรบ.ต่างๆ ซึ่งเป็นฐานความผิดของ พรบ.ฟอกเงิน เพราะว่าวันหนึ่งในอดีตของบางคนอาจจะทำธุรกิจบางอย่างซึ่งไม่ผิดกฎหมายในขณะนั้น แต่มาพอในอนาคต รัฐก็ออกกฎหมายว่าธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย คนๆนั้นก็เลิกทำ แล้วจะไปตามยึดทรัพย์เขาผมว่ามันไม่ถูก เพราะวันที่เขาทำธุรกิจนั้นมันไม่ผิดกฎหมายหมาย 2. ให้ตัดฐานความผิดออกเหลือ แค่ เรื่องยาเสพติด ฉ้อโกงสถาบันการเงิน (เอาเฉพาะเรื่องที่เป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ นั้น) 3. ก่อนที่จะไปยึดทรัพย์จะต้องพิสูจน์ความผิดก่อนว่า เขาผิดจริงไม่ใช่คิดเอาเอง 4. ถ้าเขาผิดจริง ก็ยึดทรัพย์มาตรวจสอบได้เฉพาะทรัพย์ได้มาหลังจากการกระทำความผิด ส่วนทรัพย์ที่ได้มาก่อนการกระทำความผิดต้องไม่ถูกยึดมาตรวจสอบ (เพราะว่าความผิดฐานฟอกเงินยังไม่เกิด) ไม่ใช่อ้างตลอดว่ากฎหมายผลักภาระการพิสูจน์ไปให้เจ้าของทรัพย์แล้วก็เลยยึดของเขามาทั้งหมดเลย ขอบคุณครับ
คำตอบ
เรียน คุณประวิทย์ 1. หลักเกณฑ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยสรุปมีว่า แม้การกระทำความผิดมูลฐานจะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีกฎหมายฟอกเงิน ก็สามารถใช้กฎหมายฟอกเงินไปดำเนินการได้ โดยไม่ได้บอกว่าที่ว่า "ก่อน"นั้น จะยาวนานขนาดไหน ท่านรองนายกฯวิษณุ จึงยกตัวอย่างว่า มันอาจไปได้ไกลถึงสมัยพระยาลิไท แต่ตามกฎหมายฟอกเงินนั้น การที่บุคคลจะถูกดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินได้ จะต้องมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเสียก่อน ซึ่งกฎหมายได้กำหนดไว้ชัดเจน แม้จะค่อนข้างกว้างอยู่สักหน่อย แต่ก็มีกรอบอยู่ตามสมควร เพียงแต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมิได้ระมัดระวังเท่าที่ควร บางกรณีก็ทำให้คนเข้าใจได้ว่า เมื่อนึกอยากจะใช้กฎหมายกับใคร ก็ลงมือทันที โดยมิได้สนใจว่ามีพฤติกรรมในการฟอกเงินหรือไม่ ในหลายกรณีทำให้คนเข้าใจว่าได้ใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง ผมได้เคยพูดไว้ตั้งแต่ในชั้นที่จะมีกฎหมายฟอกเงินว่า กฎหมายนี้เป็นดาบสองคม การที่ประเทศที่เจริญแล้วเขาสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่กระทบต่อคนบริสุทธิ์ ก็เพราะคนของเขามีระเบียบวินัย เจ้าหน้าที่มีมาตรฐานในทางความคิดที่วางใจได้ ถ้าตราบใดเรายังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าคนของเราจะมีมาตรฐานได้ถึงเพียงนั้น การมีกฎหมายนี้จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง และถ้าจำเป็นจะต้องมีจริง ๆ ก็ต้องจำกัด "ความผิดมูลฐาน" ไว้ในวงแคบเท่าที่จำเป็นจริง ๆ แต่สังคมไทยนั้นมักจะเฮโลกันไปตามกระแส และสนุกกับการที่ได้เห็นคนอื่นรับเคราะห์กรรม โดยลืมนึกไปว่า วันหนึ่งเมื่อการใช้อำนาจนั้นขยายวงกว้าง จนเกิดความเคยชิน อำนาจนั้นจะย้อนกลับมาหาตนได้ มาบัดนี้ การใช้อำนาจตามกฎหมายฟอกเงินได้เกิดความเคยชิน อย่างน้อยก็กับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแล้ว เราจึงได้ยินได้ฟังอยู่บ่อย ๆ ที่เมื่อเกิดอะไรขึ้น ปปง.ก็จะออกมาบอกว่าจะใช้อำนาจเข้าไปดำเนินการ ดังนั้นจึงไม่น่าจะแปลกใจอะไรที่ขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ปปง. เพื่อขยาย ความผิดมูลฐาน ให้กว้างไกลออกไปอีก ไปไกลถึงขนาดที่ครอบคลุมถึงความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่กระทำกันอยู่ เช่น การเล่นการพนัน เป็นต้น ต่อไปคงดูไม่จืด ข้อเสนอแนะของคุณนั้น เป็นสิ่งที่ชอบด้วยเหตุผล แต่จะสวนทางกับความต้องการของผู้มีอำนาจและผู้ใช้อำนาจอยู่ในขณะนี้ จึงยากที่จะได้รับการรับฟัง แต่มีความจริงอยู่สองสามอย่างว่า 1.อันกฎหมายนั้น เมื่อตราขึ้นแล้ว ก็จะใช้บังคับตลอดไปโดยไม่มีอายุ ไม่สนใจว่าคนที่ริเริ่มจะยังอยู่ในอำนาจหรือพ้นจากอำนาจนั้นไปแล้ว 2. การกระทำโดยอาศัยอำนาจกฎหมายนั้น ไม่ว่าจะผิดถูก หรือเหมาะสมหรือไม่ เมื่อมีการใช้ในลักษณะนั้นครั้งหนึ่งแล้ว ต่อไปก็จะมีคนใช้ตาม ๆ กันไป 3. คนที่มีอำนาจนั้น ให้อย่างไร ๆ วันหนึ่งก็ต้องหมดอำนาจ และในระหว่างที่อยู่ในอำนาจ หากใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยเหตุผล อำนาจนั้นมักจะย้อนกลับไปหาให้เดือดร้อนเสมอ มีชัย ฤชุพันธุ์ 15 ก.ย. 2547
มีชัย ฤชุพันธุ์
17 กันยายน 2547