MeechaiThailand.com

ความคิดเสรีของมีชัย

เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว

เรื่องสั้น

จดหมายถึงนาย

	นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
	การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
	ค่าส่วนกลาง
	ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
	ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด


	ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม

ปิดหน้าต่างนี้

คำถามที่	หัวข้อคำถาม	โดย	วันที่
011888	เกี่ยวกับคดีฉ้อโกง	สิรเลิศ	14 กันยายน 2547

คำถาม

เกี่ยวกับคดีฉ้อโกง
อยากเรียนถามว่า ผมได้ถูกทางคู่กรณีแจ้งความในคดีฉ้อโกง โดยในรายละเอียดผมกับคู่กรณีทำการค้ากันมาเป็นปีแล้ว แต่ต่อมาระยะหลังสินค้าที่สั่งซื้อมามีราคาในท้องตลาดต่ำผมจึงต้องขายในราคาต่ำกว่าทุนเพื่อนำเงินมาจ่ายคู่กรณี โดยภายหลังได้เป็นหนี้กันและทางคู่กรณีฟ้องร้อง พ.ร.บ.เช็ค คดีอาญา และผมได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีขอผ่อนชำระแต่คู่กรณีไม่ยอมจะขอเป็นเงินก้อน ประมาณ 12 ล้าน ซึ่งคู่กรณีได้ฟ้องผมในคดีฉ้อโกง ดดยข้อหาผมสั่งสินค้ามาปล่อยในราคาถูกและเมื่อคู่กรณีติดต่อขอให้ชำระเงินกลับปิดบริษัทหนี ทั้งที่ข้อเท็จจริงนั้นผมยังดำเนินกิจการอยู่มีการชำระภาษีประจำปี ไม่ได้ปิดบริษัทหนีไปไหน โดยต่อมาภายหลังทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากพิจารณาเป็นคดีที่สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้เท่านั้น อยากเรียนถามดังนี้ 1.ผมสามารถฟ้องกลับคู่กรณีในข้อหาใดบ้าง 2.ทนายความฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้รับมอบอำนาจในคดีดังกล่าว น่าจะมีวิจารณยาน วิเคราะห์ได้ว่าคดีดังกล่าวควรเป็นแพ่งหรืออาญา ทั้งที่ทราบแต่กลับแจ้งความดำเนินคดีกับผมในทางอาญา ผมสามารถร้องเรียนพฤติกรรมของทนายคนนี้ได้หรือไม่ และผมสามารถฟ้องร้องบุคคลที่เกี่ยวข้องใครได้บ้างครับ รบกวนช่วยตอบผมด้วยน่ะครับ

คำตอบ

. คงฟ้องไม่ได้ เพราะเขาไปแจ้งความกับตำรวจ การดำเนินการต่อไปเป็นเรื่องของตำรวจและอัยการ ซึี่่งมีหน้าที่กลั่นกรองและให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งในท้ายที่สุดก็ปรากฏว่าคุณได้รับความเป็นธรรม ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เป็นการกระทำความผิดทางอาญาของผู้แจ้งความ เหมือนกับกรณีมีคนเข้ามาในร้าน แล้วภายหลังปรากฏว่าของในร้านหายไป คุณสงสัยว่า คนที่เขามาในร้านหลังสุดเป็นคนลักไป คุณไปแจ้งความกับตำรวจโดยแจ้งว่าสงสัยคนนั้นคนนี้ ก็เป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องสืบสวนและสอบสวน ถ้าได้ความในภายหลังว่าตนที่คุณสงสัย ไม่ได้ลักของไป คุณก็ไม่มีความผิด แม้ว่าคุณจะเป็นต้นเหตุให้เขาต้องถูกตำรวจเรียกไปแจ้งข้อหา ต้องประกันตัว หรือบางกรณีต้องถูกกักขังระหว่างสอบสวนก็ตาม ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้ความคุณจงใจโดยรู้อยู่แล้วว่าคนนั้นไม่ได้กระทำความผิด แต่เอาความเท็จไปแจ้ง คุณก็อาจมีความผิดได้ 2. ทนายความเขาก็ทำไปตามหน้าที่ ตามความเห็นของเขา ซึ่งอาจตรงหรือไม่ตรงกับตำรวจหรืออัยการ หรือศาลได้ ถ้าขืนเอาเป็นความผิดต่อไปคงไม่มีใครว่าความให้กับคนที่ถูกกล่าวหา มีชัย ฤชุพันธุ์ 13 ก.ย. 2547

มีชัย ฤชุพันธุ์
14 กันยายน 2547