MeechaiThailand.com

ความคิดเสรีของมีชัย

เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว

เรื่องสั้น

จดหมายถึงนาย

	นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
	การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
	ค่าส่วนกลาง
	ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
	ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด


	ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม

ปิดหน้าต่างนี้

คำถามที่	หัวข้อคำถาม	โดย	วันที่
011870	แปลกใจในธงคำตอบ	กา	10 กันยายน 2547

คำถาม

แปลกใจในธงคำตอบ
จากที่มีคนตั้งคำถามว่า"ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โบกรถของกระผมให้จอดโดยที่กระผมขับรถจักรยานยนต์ไม่ได้สวมหมวกกันน็อค แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ถอดกุญแจรถไปเลยถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ครับ" และอาจารย์ก็ตอบว่า"ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ถ้ามีเจตนาเอากุญแจนั้นไปเลย ก็ผิดฐานลักทรัพย์ " ผมสงสัยมากเลยกับธงคำตอบดังกล่าว ซึ่งผมไม่เห็นว่า ประเด็นไหนทำให้เสียทรัพย์ เพราะไม่มีการทำลาย หรือทำให้เสื่อมค่าในทรัพย์แต่อย่างใด และก็ไม่ได้หน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพแต่อย่างใด เพราะผู้ขับขี่จะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ ไม่ม่มีใครห้ามไว้ และต่อมาก็มาบอกว่า ถ้ามีเจตนาเอาไปเลยก็ผิดฐานลักทรัพย์ ผมจึงไม่แน่ใจว่า เจตนาเอาไปเลยนี่มันเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากที่ดึงกุญแจไป และควรพิจารณาอย่างไร หากมีเจตนาเอาไปก่อนที่จะดัง มันก็น่าจะเป็นฉกฉวยเอาไปทรัพย์ไปซึ่งหน้า และการกระทำดังกล่าวก็เป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่เห็นพูดถึงประเด็นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เลยไม่แน่ใจว่า ผู้ที่ตอบเป็นอาจารย์ตัวจริงหรือเปล่า

คำตอบ

ลองสมมุติเสียใหม่ว่าการกระทำทั้งปวงเหล่านั้นไม่ใช่เป็นการกระทำของตำรวจ (ซึ่งมักจะนึกว่าตัวเองมีอำนาจทุกอย่าง) บางทีอาจจะเข้าใจว่าทำไมจึงเป็นความผิดทางอาญาได้ การเรียกคนขับรถให้หยุด แล้วดึงกุญแจรถเขาไป ทำให้เขาไม่สามารถใช้รถได้ เป็นการทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งรถยนต์ของคนอื่น ตามมาตรา ๓๕๘ การเอากุญแจรถของเขาออกโดยมีเจตนาที่จะให้เขาใช้รถไปไหนไม่ได้ ย่อมเป็นการหน่วงเหนี่ยว ตามมาตรา ๓๑๐ ถ้าได้ความว่าการเอากุญแจรถไปเพื่อเอาไปเป็นของตน ย่อมเข้าข่ายเป็นการเอาทรัพย์ของคนอื่นไปโดยทุจริต (เพราะกุญแจรถก็เป็นทรัพย์อย่างหนึ่ง) ย่อมเป็นการลักทรัพย์ จริงอยู่ตำรวจมีอำนาจจับคนที่ฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ เมื่อเขาฝ่าฝืนกฎหมายเพราะไม่ได้สรวมหมวกกันน๊อค ก็สามารถจับและออกใบสั่งให้เขาไปเสียค่าปรับได้ ถ้าเขายอมรับว่ากระทำผิดเขาก็อาจยอมเสียค่าปรับ หากเขาเห็นว่าเขาไม่ผิด เขาก็อาจไม่ยอมเสียค่าปรับ ซึ่งกรณีนั้นตำรวจก็ได้แต่จะส่งฟ้องศาล เพื่อให้ศาลพิจารณา การไม่สรวมหมวกกันน๊อค เป็นความผิดเล็กน้อย ซึ่งตำรวจไม่มีสิทธิควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาได้ มากไปกว่าเพื่อการถามชื่อที่อยู่ ที่ตอบไปน่ะ ตอบไปเพียงเท่าที่นึกได้ ถ้าให้นึกนาน ๆ อาจจะมีข้อหาอื่น ๆ ได้อีก เช่น การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เป็นต้น มีชัย ฤชุพันธุ์ 9 ก.ย. 2547

มีชัย ฤชุพันธุ์
10 กันยายน 2547