ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
    มุมของมีชัย
  • ความคิดเสรีของมีชัย
  • เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
  • เรื่องสั้น
  • จดหมายถึงนาย
  •  
     
    ความคิดเสรีของมีชัย

    เรายังเป็นคนไทยกันอยู่หรือ?

    ได้อ่าน ฟัง และชม รายการต่าง ๆ ทางสื่อมวลชนในช่วงสองสามวันมานี้แล้วให้กลุ้มใจนัก จนอดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า จิตใจของคนไทยบางกลุ่มบางพวกเป็นอะไรกันไปแล้ว


    ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ส่งข่าวไปลงหนังสือพิมพ์ของตนที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ว่ากล่าวนายกรัฐมนตรีของไทยในทางเสียหาย เกี่ยวกับการดำเนินการทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนั่นก็ช่างเถอะ เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นคนสาธารณะ อยู่ในแวดวงการเมือง จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ผิดบ้างถูกบ้าง ก็เป็นของธรรมดา


    แต่การที่นักข่าวฝรั่งคนนั้น บังอาจถึงขนาดโยงกิจกรรมทางการเมือง ไปจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักของประชาชนชาวไทย ดูจะเป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้


    ตำรวจจึงเพิกถอนการมีถิ่นที่อยู่ เพื่อให้ออกไปให้พ้นจากประเทศไทย ซึ่งก็เป็นการทำตามหน้าที่ที่พึงกระทำ แม้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (จะด้วยแรงกระตุ้นของคนไทยบางคน ที่เป็นคนให้ข่าวหรือมีส่วนได้เสียด้วยหรือไม่ก็สุดเดา) จะจับกลุ่มกันแสดงความไม่เห็นด้วย หรือถึงขนาดให้ลูกพี่ที่อยู่เมืองนอก ออกมากล่าวเตือนประเทศไทย รวมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศของตนออกมาแถลงเตือน แม้จะน่าเหลืออดเหลือทน ก็ยังพอทำเนา


    เพราะเขาทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและคนของเขา และคนชาติดังกล่าว ไม่เคยมีอะไรเป็นที่เคารพรักหรือเทิดทูน


    ถ้าจะมีก็เป็นเพียงความเกลียด ความกลัว ที่ทำให้รวมกลุ่มกันได้ อย่างเช่นกรณีที่ทำกับบิน ลาเดน ในกรณีนั้น เขาลืมเรื่องพรรค เรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง ลืมความแค้นส่วนตัว ลืมความอิจฉาริษยา เพื่อหันมาเล่นงานบิน ลาเดน อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งก็น่าดีใจแทนเขาที่ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน เพื่อประโยชน์ของประเทศของเขา เขาก็รวมตัวกันได้ ไม่ว่าการที่จะไปทำนั้นผิดหรือถูกก็ตาม


    แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. บางคน รวมทั้งกลุ่มผู้สื่อข่าวไทยบางกลุ่ม หรือเอ็นจีโอ กลับออกช่วยเขาถล่มประเทศไทยอย่างเอาเป็นเอาตาย


    บ้างก็ออกมารับลูกของทนายฝรั่ง ที่เรียกร้องให้แจ้งข้อหาว่าเขาทำผิดอะไร พร้อมทั้งผลักดันให้มีการดำเนินการทางศาล


    ขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ คุณทองใบ ทองเปาด์ กำลังออกมาให้ความเห็นทางรายการคมชัดลึกอยู่แจ้ว ๆ ว่าทำไมไม่ไปฟ้องต่อศาล ทั้งยังพยายามอธิบายว่า การที่ตำรวจใช้ข้ออ้างเรื่องความมั่นคงนั้น เป็นข้ออ้างที่หาข้อความชัดเจนไม่ได้


    บางคนยังช่วยกันกระพือให้ฝรั่งอีกด้วยว่า การกระทำของตำรวจเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญได้คุ้มครองเสรีภาพของสื่อมวลชนไว้อย่างกว้างขวาง


    ท่านสมาชิกวุฒิสภา และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางท่าน ที่พยายามจะเอาใจฝรั่งที่เคารพครับ ในวันแรกที่ท่านจะเข้ารับหน้าที่ ท่านทั้งหลายได้ยืนปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวว่า “ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”


    ท่านทั้งหลายจำไม่ได้หรือครับว่า มาตรา ๒ ของรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”


    มาตรา ๘ ของรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”


    และมาตรา ๖๖ บัญญัติว่า “บุคคลมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้”


    เมื่ออ่านรัฐธรรมนูญมาตราต่าง ๆ ที่ลอกมาให้ดูข้างต้นแล้ว ยังจะหาคำอธิบายคำว่า “ความมั่นคง” กันอีกไหม


    ส่วนที่อ้างกันเรื่องเสรีภาพของสื่อมวลชนนั้น ก็อย่าลืมดูมาตรา ๒๘ ที่บัญญัติว่า “บุคคล….ย่อมใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้ เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ….”


    ในฐานะที่เป็นเพื่อนฝูงสนิทสนมกับฝรั่งเหล่านั้น ทำไมท่านไม่เตือนเขาบ้างล่ะครับว่า นอกจากมาตรา ๓๙ ที่ท่านช่วยไปชี้ให้เขาเห็นแล้ว รัฐธรรมนูญของไทยยังมีมาตราที่สำคัญ ๆ ดังกล่าวข้างต้นอีกด้วย


    หรือถ้าเกรงใจเขานักก็ลองถามเขาดูว่า เพียงแค่หนังสือพิมพ์อเมริกา วาดการ์ตูนล้อเลียนผู้นำเขานิดเดียว ทำไมถึงบีบบังคับให้ต้องประกาศขอขมากันทันที เสรีภาพของสื่อในกรณีนั้นหายไปไหน


    ท่านทั้งหลายเป็นอะไรกันไปครับ ถึงได้เอาใจเขาจนลืมความเป็นไทยกันได้ถึงเพียงนี้


    สำหรับข้อโต้แย้งของทนายความฝรั่ง ที่มาอ้างว่าทำไมเราจึงไม่ดำเนินการให้เป็นคดีนั้น


    ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเราถึงต้องดำเนินคดีตามที่เขาต่อสู้ด้วยล่ะ ในเมื่อกฎหมายไทยเปิดโอกาสให้ดำเนินการได้ ๒ ทาง มีกฎบัตรสหประชาชาติ หรือกติกาในโลกที่ไหนบ้างไหมครับ ที่จะบังคับว่า จะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ที่ทนายความหรือมหาอำนาจบงการ


    ทำไมไม่ถามเขาบ้างล่ะครับว่า เมื่ออเมริกาสงสัยว่าบิน ลาเดน เป็นตัวการก่อวินาศกรรมตึก world trade ทำไมถึงไม่ออกหมายจับ และดำเนินการติดต่อกับประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน แล้วรอจนกว่าจะได้ตัวมา เพื่อจะได้นำตัวไปขึ้นศาล


    ทำไมถึงเที่ยวได้ชักชวนเชิงบีบบังคับ ให้ประเทศทั้งหลายต้องแสดงความเห็นดีเห็นงาม และเข้าร่วมในการบุกโจมตีอัฟกานิสถาน ต้องฆ่าคนตายเป็นเบือ โดยที่คนเหล่านั้นเขาไม่ได้มีความผิดอะไรด้วย จนดูเหมือนว่าคนที่ตายในอัฟกานิสถาน จะมีจำนวนมากมายกว่าที่ตายเมื่อตึก world trade ถล่มด้วยซ้ำไป แล้วยังจะฆ่ากันต่อไปอีกนานเท่าไรก็ยังไม่รู้


    ทำไมไม่ถามเขาบ้างล่ะครับว่า เมื่อเวลาที่อเมริกา black list คนไม่ให้เข้าประเทศ หรือขับคนสัญชาติอื่นออกจากอเมริกา อเมริกายอมให้ใครโต้แย้งหรือทักท้วงหรือไม่


    เคยนึกถึงสิทธิมนุษยชนบ้างหรือไม่


    นึกถึงเสรีภาพของผู้คนบ้างไหม


    เคยให้โอกาสคนที่ถูกห้ามเข้าอเมริกาได้พิสูจน์ตนต่อศาลหรือไม่


    คนที่เป็นทนายความฝรั่งที่ออกมาแถลงฉอด ๆ นั้น ก็เป็นคนที่ทำมาหากิน มาพึ่งบรมโพธิสมภารมาหลายสิบปี จนร่ำรวยมหาศาล น่าจะรู้ดีว่าคนไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร และถ้าเมื่อไรคนไทยรู้สึกว่า ใครก็ตามกระทำการใดให้เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่รู้บ้างหรือว่าอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้


    ผมยังเห็นว่า การที่ตำรวจเลือกดำเนินการ ในทางที่ให้คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกจากประเทศไทย เป็นการกระทำที่มองการไกล และเลือกใช้วิธีที่นุ่มนวล เป็นผลดีต่อคนเหล่านี้เป็นอย่างมาก


    ใครจะรับรองได้ว่า เกิดคนไทยเรียนรู้อะไร ๆ ในอเมริกามาก ๆ เข้า อาจเลือกใช้วิธีดำเนินการที่ถือว่าเป็นศิวิไลซ์ในอเมริกา อย่างที่คนผิวดำดำเนินการกับตำรวจที่เมือง แอล เอ เมื่อหลายปีก่อน จนตำรวจต้องตายกันไปหลายคน


    เกิดเหตุอย่างนั้นขึ้น ก็จะจับมือใครดมไม่ได้ และจะมาโทษคนไทยก็ไม่ได้ เพราะเขาเลือกวิธีเดียวกัน กับที่คนอเมริกันเคยทำมาให้เห็นเป็นตัวอย่าง


    คนไทยน่ะดู ๆ ไปก็เป็นคนใจเย็น เวลายอมก็ยอมง่าย ๆ แต่ถ้าเมื่อไรรู้สึกว่าเป็นการเหยียบย่ำกันจนเกินไป บทจะเลือดร้อนขึ้นมาอะไร ๆ ก็ฉุดไม่อยู่


    ขอเสียทีเถิดครับสำหรับคนไทย จะทำอะไรกันทางการเมือง จะเกลียดโกรธหรือแค้นกัน หรือจะอยากเด่นอยากดังกันอย่างไร ขอให้นึกถึงความเป็นไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐกันไว้บ้าง


    มิฉะนั้นเราจะภูมิใจในความเป็น “คนไทย” ได้อย่างไร?

    มีชัย ฤชุพันธุ์