กราบเรียนอาจารย์ครับ
กระผมถูกลงทัณฑ์กัก ๑ วัน ในฐานความผิดขาดแถวเวลา ๐๘๓๐ เมื่อ ๒๙ ก.ย.๔๗ ในครั้งนั้นกระผมได้รับการแต่งตั้งยศว่ที่ ร.อ. เมื่อ ๑ ก.ย.๔๗ การนับปีครองยศจนถึง ๑ ก.ย.๕๑ จะเป็น ๔ ปี สามารถเสนอขอยศเป็นว่าที่ นาวาตรี ได้ แต่กระผมไม่สามารถขอยศได้เพราะเมื่อนายทหารสัญญาบัตรมีความผิดถึงขั้นต้องงดบำเหน็จในปีใดจะไม่นับปีครองยศในปีนั้นทำให้ผมครองยศไม่ครอบ ๔ ปีซึ่งในประเด็นจะขอความกรุณาหารือกับอาจารย์ก็คือ พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.๒๕๕๐ นั้น ในมาตรา ๕ ให้ล้างโทษมลทินผู้ถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งก็คือโทษกัก ๑ วันนั้นไม่มีอยู่ แต่ความผิดฐานขาดแถว ๑ วันนั้นยังคงอยู่ ตามที่ผมได้ศึกษามาบ้าง แต่ในปัญหาคือในมาตรา ๗ เรื่องสิทธิต่าง ๆ ในส่วนของข้าราชการพลเรือนได้มีการหารือกับสำนักกฤษฎีกาในเรื่องสิทธิที่เสียไปนั้นไม่สามารถเรียกร้องได้จะเป็นในเรื่องเงินเดือนย้อนหลัง หรือการถือครองยศย้อนหลัง เช่นกรณีที่กระผมจะต้องอาจครองยศ น.ต. ในตอนนั้น แต่ไม่ได้แล้วผมจะเรียกร้องเมื่อตอนนั้น หรือเงินเดือนที่ผมจะได้รับในตอนนั้น ตามมาตรา ๗ ก็คือไม่ได้เพราะไม่อย่างนั้นระบบราชการจะวุ่นวาย แต่ที่จะขอความกรุณาอาจารย์ได้กรุณาตีความคือ การงดนับปีครองยศถือเป็นโทษที่ได้รับจากการงดบำเหน็จใช่หรือไม่ เพราะฝ่ายพระธรรมนูญของ ทร. ตีความว่าการนับปีครองยศถือเป็นสิทธิที่เรียกร้องไม่ได้ตามมาตรา ๗ ตามที่กระผมได้มีความรู้ด้านกฎหมายซึ่งอาจจะไม่ดีนักก็คือหลักนิติธรรมของรัฐว่าการตีความใดก็ตามถ้าการตีความนั้นมีคุณมีประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่ายจะยกให้ แต่ฝ่าย ทร. ตีความว่าปีครองยศนั้นเป็นสิทธิ ตามมาตรา ๗ ซึ่งเมื่อมองในคุณประโยชน์ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เลยซึ่งผลเสียที่ตามมาเมื่อครองยศหลังเพื่อนร่วมรุ่นจะทำให้เรียนใน รร.เสธ ฯ พร้อมเพื่อนไม่ได้ ซึ่งดูตามความผิดที่กระผมได้ทำลงไปเมื่อเปรียบกับปัญหาทุจริตบ้านเมืองแล้วดูจะไม่ยุติธรรมนักแต่ผมก็เป็นแค่ลูกตาสีตาสาที่ตั้งใจเรียนหนังสือแล้วสอบเข้ามาเรียนใน รร. เหล่าทัพได้ หากผมมีพ่อแม่เป็นนายพลหรือมีชาติตระกูลคงจะทำให้นน้ำหนักและการตีความตรงนี้เข้าข้างผมบ้าง ผมจึงอยากขอความเมตตาจากอาจาย์ช่วยกรุณาตีความว่าปีครองยศนี้ถือเป็นสิทธิตามมาตรา ๗ หรือไม่ เพราะผมมองว่าเป็นการโดนลงโทษต่อเนื่องจากการงดบำเหน็จเสียมากกว่าเพราะสิทธิที่เสียไปคือเงินเดือนที่ไม่ขึ้น