ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่าที่ตกลง
เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพอย่างสูง
ผมได้เปิดบัญชีเงินฝากประจำประเภท1ปีที่ธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับเกษตรกร เนื่องจากผู้จัดการสาขาของธนาคารแห่งนี้ในขณะนั้นขอให้ช่วยทำเป้าด้านเงินฝาก โดยพนักงานธนาคารผู้ทำการเปิดบัญชีแจ้งว่าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ4.50บาทต่อปี สอดคล้องกับบอร์ดปิดประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แสดงไว้ที่สาขา ซึ่งผมตกลงเปิดบัญชีทั้งที่ในวันดังกล่าวธนาคารพาณิชย์อีกอย่างน้อย1แห่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอีกร้อยละ0.25บาทต่อปี แต่ผมเห็นว่าจะได้เป็นทุนในการช่วยเหลือเกษตรกรตามที่ธนาคารแห่งนี้ได้โฆษณาตามสื่อต่างๆ แต่มีข้อน่าสังเกตุว่าสมุดคู่บัญชีเงินฝากประจำของธนาคารแห่งนี้ไม่ปรากฏมีการระบุอัตราดอกเบี้ยที่ลูกค้าจะได้รับลงไปในลักษณะเดียวกับสมุดคู่บัญชีเงินฝากประจำของธนาคารอื่นๆ
ดังนั้นภายหลังจากเปิดบัญชีเป็นเวลา19วันผมได้ติดต่อไปยังผู้จัดการสาขาของธนาคารขอให้ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยที่ถูกต้องให้ด้วยเนื่องจาก ประการแรกธนาคารไม่ระบุอัตราดอกเบี้ยลงในสมุดคู่บัญชี และประการที่สองในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลงธนาคารต่างๆได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้จัดการสาขาได้มาพบผมในวันเดียวกันนั้นและแจ้งว่าผมจะได้รับอัตราดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ4.50บาทต่อปี พร้อมทั้งได้มอบเอกสารซึ่งเป็นเอกสารภายในของธนาคารเองที่มีทั้งการพิมพ์และรายมือของพนักงานบันทึกยืนยันความถูกต้องของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ซึ่งทำให้ผมในฐานะลูกค้าที่เป็นบุคคลภายนอกเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยในอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับ
ต่อมาเมื่อครบ1ปีตามเงื่อนไขการฝากปรากฏว่าธนาคารได้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราเพียงร้อยละ4.25บาทต่อปี เมื่อผมทำการทักท้วงสาขาของธนาคารก็ตอบว่าธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทและวงเงินดังกล่าวลงร้อยละ0.25บาทต่อปีในวันเดียวกับที่ผมได้ทำการเปิดบัญชีแต่ด้วยการสื่อสารที่ล่าช้าภายในธนาคารเองทำให้พนักงานที่สาขายังไม่รับทราบการเปลี่ยนแปลงและแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่ปรับลดแก่ผมในการเปิดบัญชี ซึ่งผมได้สอบถามเพิ่มเติมว่าแล้วเหตุใดภายหลังเปิดบัญชีถึง19วัน ผู้จัดการสาขาจึงยังยืนยันทั้งด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษรว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถูกต้อง ซึ่งสาขาตอบอย่างไม่ชัดแจ้งว่าเอกสารที่นำมามอบเพื่อยืนยันนั้นเป็นการคำนวณดอกเบี้ยพึงได้รับของลูกค้า ซึ่งการคำนวณธนาคารจะยืนอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้และจะทำการเปลี่ยนแปลงภายหลังประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมีผลแล้ว3เดือน แต่เน่องจากผู้จัดการสาขาไม่มีความรู้ในกรณีดังกล่าวจึงได้นำเอกสารนั้นมาเป็นหลักฐานในการยืนยันข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับลูกค้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแต่อย่างใด เพราะเหตุแห่งความผิดพลาดทั้งหมดเป็นเหตุที่เกิดภายในธนาคารเองจะให้ลูกค้าที่เป็นบุคคลภายนอกไปร่วมรับรู้หรือรับผิดชอบไม่น่าจะถูกต้อง กระผมจึงใครขอเรียนถามในประเด็นต่างๆดังนี้
1.ธนาคารซึ่งเป็นนิติบุคคลย่อมต้องแสดงเจตนาผ่านทางตัวแทนซึ่งเป็นพนักงานในระดับต่างๆในการทำนิติกรรมกับบุคคลภายนอก ในกรณีตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นควรยึดอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารประกาศเปลี่ยนแปลงลดลงแล้วซึ่งลูกค้าในฐานะบุคคลภายนอกไม่มีโอกาสรับทราบ(พนักงานธนาคารเองก็ยังไม่รับทราบ)หรืออัตราดอกเบี้ยที่พนักงานธนาคารหลายระดับได้แจ้งกับลูกค้าทั้งด้วยเครื่องมือ(บอร์ดปิดประกาศ)วาจาและลายลักษณ์อักษรเป็นหลัก
2.ในกรณีที่เกิดความเสียหายเนื่องจากลูกค้าได้รับข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญที่ผิดพลาดจากพนักงานของธนาคารเป็นเหตุให้ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าที่ควร(กรณีข้อเท็จจริงในวันเปิดบัญชีอัตราดอกเบี้ยของธนาคารนี้ต่ำกว่าธนาคารอื่นถึงร้อยละ.50บาทต่อปีไม่ใช่.25บาทต่อปีตามที่แจ้งไว้) ซึ่งธนาคารไม่ควรนึกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเพราะความเสียหายอาจมากหรือน้อยตามยอดของเงินที่ฝาก หากเกิดความเสียหายเนืองจากลูกค้าตัดสินใจพลาดไม่ได้ไปเปิดบัญชีกับธนาคารอื่นที่มีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า ความเสียหายเช่นนี้ฝ่ายใดต้องรับผิดชอบ
3.กรณีที่ข้อ 2.หากธนาคารต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ หมายรวมไปถึงความเสียหายแก่รัฐในกรณีเก็บภาษีรายได้จากเงินฝากประจำร้อยละ15เนื่องจากลูกค้าได้รับดอกเบี้ยลดลงรัฐก็ย่อมต้องจัดเก็บรายได้ลดลงไปด้วยเช่นกัน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดกรุณาตอบเพื่อเป็นบรรทัดฐานในกรณีดังกล่าวด้วย การให้ธนาคารแห่งนี้อ้างความบกพร่องภายในของตนเองยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้อาจทำให้เกิดความเสียหายและข้อเสียเปรียบกับลูกค้าของธนาคารซึ่งส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดเป็นเกษตรกรซึ่งยังอาจขาดความรู้ความเข้าใจที่ดีพอในการที่จะยกเหตุผลขึ้นต่อสู้
ขอแสดงความนับถือ
ผู้มีทรัพย์ |