เอากำไรที่เราทำให้กับบริษัทมาใช้
เรียน:อาจารย์มีชัยที่เคารพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้จริงนะครับกำลังเกิดขึ้นกับของผมในตอนนี้ ผมจะบอกข้อมูลจริงเลยแล้วกันนะครับเพื่อที่อาจารย์จะได้เข้าใจครับ
ผมอายุ 22 ปี เมื่อปี 2548 ผมทำงานอยู่ที่บริษัท T.V.L. Shipping(Thailand) Co.,Ltd. มีเจ้าของบริษัทเป็นคนสิงค์โปร์ซึงจะบินมาดูงานเดือนละ 1 ครั้ง ในบริษัทมีพนักงานอยู่ 3 คน รวมทั้งผมด้วย ต่อมาปี 2549 ทางบริษัทได้ชักชวนผมให้ร่วมถือหุ้นเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ซึ่งผมก็ตกลงเป็นหุ้นส่วนของบริษัท และก็ได้เลื่อนขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการ สถานะของหุ้นบริษัทตอนนี้ก็คือ 1.เจ้าของบริษัทซึ่งเป็นคนสิงค์โปร์ ถือหุ้นอยู่ 60% 2.กรรมการผู้จัดการบริษัทฯชื่อ น้อง ถือหุ้น 20% 3. ผมเองถือหุ้น 20% (ข้อมูลที่เปิดเผยใช้ชื่อพี่น้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งต่างชาติถือหุ้นใหญ่ไม่ได้) .......บริษัทฯทำงานเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ซึ่งผมเองก็เป็นคนรับงานเอง หาลูกค้าเอง ดำเนินการเอง จนเสร็จสิ้นกระบวนการ เช่น ทางบริษัทกำหนดราคาค่าขนส่งของรวมกำไร ของลูกค้าคนนี้ไว้ที่ 36,000 บาท ผมใช้ความสามารถบอกลูกค้าว่าค่าขนส่งทั้งสิ้น 46,000 บาท เมื่อลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทจะได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 10,000 บาท ซึ่งไม่มีใครรู้นอกจากผมเอง ผมจึงคิดว่า ผมควรจะได้เงินจากตรงนี้บ้าง เพราะเมื่อก่อนที่ผมจะถือหุ้นของบริษัทฯ ตอนที่ผมเป็นพนักงานธรรมดา ผมจะได้ค่าคอมมิสชั่น แต่เมื่อผมเป็นถือหุ้นเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทฯแล้ว ทางบริษัทได้ยกเลิกค่าคอมมิสชั่นตัวที่ผมเคยได้รับอยู่ จากกำไร 10,000 บาท ผมจึงนำเงินเข้าบริษัท 7,000 บาท (ซึ่งก็เป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นเกินกว่ากำไรที่บริษัทฯ ควรจะได้อยู่แล้ว) เหลืออีก 3,000 บาท เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้งแต่กับเฉพาะลูกค้าคนเดิม ....ต่อมาเมื่อสิ้นปีทางบริษัทฯไม่ได้จ่ายเงินปันผลซึ่งอ้างว่ากำไรน้อยและต้องการนำกำไรส่วนที่ได้มาหมุนเวียนในบริษัท ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร และเมื่อเดือน พฤษภาคม 2550 ผมเห็นว่าเงินที่ผมถือหุ้นอยู่ ไม่ได้ทำกำไรให้กับผมเลย ไม่มีการปันผลไดๆทั้งสิ้น ผมจึงคิดที่จะนำเงินมาหุ้นกับเพื่อนเปิดกิจการร้านขายไอศกรีมและอินเตอร์เน็ตอยู่ที่บ้านเกิด จึงขอถอนหุ้นจำนวน 200,000 บาท และถอนชื่อออกจากกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ แต่ทางบริษัททำท่ายึกยักจะไม่ยอมให้ถอนหุ้น แต่สุดท้ายก็ยอมจ่ายเงินคืนมา จำนวน 180,000 บาท ซึ่งผมก็ยอมเพราะดีกว่าไม่ได้อะไรคืนมาเลย เมื่อผมได้เงินคืนจึงลาออกกับบริษัทฯ ปัจจุบัน ทางบริษัท T.V.L ได้หาหลักฐานมาทำการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในส่วนที่ ผมแบ่งเงินกำไรของบริษัท มาใช้เป็นของส่วนตัว เป็นจำนวนเงิน 135,000 บาท ตอนเขาทวงที่แรก ผมก็ให้เหตุผลไปว่ามันเป็นเงินส่วนที่ผมควรจะได้ และผมก็ได้ทำกำไรไห้กับบริษัทไว้มากหลายเท่าตัวของเงินตรงนี้ เขาไม่ยอม ผมก็เลยขอเขาผ่อน เขาให้ผ่อนโดยผมไปกู้บัตรเครดิตรมา จ่ายให้เขา 35,000 บาท เหลืออีก 100,000 บาทเขาไม่ให้ผ่อน ผมก็ไม่มี ตอนนี้ทางบริษัท T.V.L. ได้ฟ้องร้องผมเรียบร้อยแล้วครับ
คำถามนะครับ
1. ผมเอาเงินกำไรของบริษัทฯ (เฉพาะลูกค้าของผมที่หามาได้เองแค่ 2 คน นอกนั้นไม่ได้เอาของเขาเลย) มาใช้ 30% ผมจะมีความผิดอย่างไร และมีบทลงโทษอย่างไร
2.ผมได้มีการถอนหุ้นและถอนชื่อออกจากกรรมการผู้จัดการบริษัทตั้งแต่ เดือน พ.ค. ปี 2550 และขณะนี้ทางบริษัท T.V.L. ได้มีการยืนฟ้องหนูฐานฉ้อโกง ในขณะที่ยังเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทอยู่ อยากทราบว่าทางบริษัทสามารถยืนฟ้องผมได้หรือไม่ครับ
3. ถ้าผมยอมรับความผิดและจะชำระเงินทั้งหมดที่ทางบริษัทเรียกเก็บจำนวน 100,000 บาท แต่เนื่องจากทางไม่มีกำลังทรัพย์ในการที่จะชำระในครั้งเดียวได้ ซึ่งทางบริษัท T.V.L. ไม่ยินยอมให้ผ่อนชำระ และทางบริษัทจะดำเนินการยืนเรื่องฟ้องต่อให้ถึงที่สุด ผมอยากจะผ่อนเขาเป็นเดือนๆเท่าที่ผมจะมีกำลังทรัพย์จ่ายให้เขาได้ ผมจะทำอย่างไรดีครับ
4.สุดท้ายครับ การที่ผู้ถือหุ้น 60% ของบริษัทเป็นคนสิงค์โปร์ และได้มีการทำผิดในลักษณะเดียวกันกับผมก็คือนำกำไรของบริษัทไปใช้ จะถือเป็นความผิดหรือไม่ และผมจะมีวิธีการยืนเรื่องฟ้องหรือดำเนินการอย่างไรได้บ้างครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ กรุณาตอบคำถามให้ผมด้วยนะครับ เครียดมากเลยครับ ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
มหาจักร
ปล.คนสิงค์โปร์บางคน รู้มาก โกงประเทศไทยทุกวิถีทางที่จะทำได้ เราเองเป็นลูกน้องเขา รู้ทั้งรู้ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะกินเงินเดือนที่เขาจ่ายให้เรา อย่าไว้ใจใครง่ายๆนะครับ...
|