เรียน อาจารย์มีชัย
แม่ผมมีที่ดิน สปก.อยู่แปลงหนึ่ง(ชื่อแม่ครอบครอง) เมื่อประมาณปี 2537 พ่อได้เขียนหนังสือเพื่อที่จะแบ่งแยกให้น้องชาย 6 ไร่เื่พื่อที่จะสร้างเป็นสำนักสงฆ์(แม่ไม่ได้เซ็นหนังสือนั้นด้วย) แต่ไม่ได้แจ้งเรื่องส่งไปที่ สปก. และน้องชายพ่อก็ได้บวชเป็นพระอยู่ที่สำนักสงฆ์อยู่ตั้งแต่ปี2537 ต่อมาปี 2541 พ่อได้เสียชีวิต ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ แม่เคยช่วยหาผ้าป่าเพื่อหาเงินช่วยพัฒนาสำนักสงฆ์มาตลอด แต่ในปี 2549 พระ(น้องชายพ่อ)ได้สร้างสำนักสงฆ์เพิ่มโดยรุกล้ำที่ดินมากกว่า 6 ไร่เิกินกว่าที่พ่อเคยให้ และต่อมาเดือนสิงหาคม 2550 น้องชายพ่อได้สึกออกจากการเป็นพระ และได้รื้ออาคารพักสงฆ์หลังใหญ่ไปขาย อีก 1 เดือนต่อมามีพระรูปใหม่เข้ามาอยู่ และได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อจะขออณุญาตตั้งวัด แต่แม่ไม่ยอมเพราะได้รุกล้ำที่ของแม่มากกว่า 6 ไร่ที่พ่อเคยให้สัญญาไว้และพระรูปนั้นแม่ก็ไม่เคยรู้จัก ผมจึงอยากจะถามอาจารย์ว่า
1.การสร้างรุกล้ำที่เกินกว่า 6 ไร่ที่พ่อเคยให้นั้น แม่สามารถฟ้องร้องเอาคืนทั้งหมดได้หรือไม่ครับ
2.หนังสือสัญญาที่พ่อเคยเซ็นไว้ให้กับน้องชาย และรูปภาพของแม่ที่เคยไปร่วมทำบุญที่สำนักสงฆ์จะมีผลต่อการฟ้องหรือไม่ครับ
3.พระ และกรรมการมีสิทธิที่จะครอบครองที่ดินของแม่ หรือไม่ครับ
4.การฟ้องร้องถ้ามีทนายทำคดีให้ แม่จะมีสิทธิ์ที่จะชนะ หรือไม่ครับ แม่กลัวจะแพ้คดีเพราะว่าชาวบ้าน,อบต. และผู้ใหญ่บ้านต้องการสร้่างวัดนี้จึงจะเป็นพยานให้กับทางวัด
ขอขอบคุณอาจารย์อีกครั้งหนึ่งครับ
วินัย
เรียน คุณวินัย
1. การอนุญาตให้คนอื่นไปจัดตั้งสำนักสงฆ์น่ะผิดมาแต่แรก เพราะที่ดิน สปก.เขาจัดให้เกษตรกรเพื่อให้ใช้เป็นที่ดินทำกิน แต่ในระหว่างคู่กรณี คือบิดาคุณกับสำนักสงฆ์นั้น หากรุกล้ำเข้ามาเกินกว่าที่อนุญาตให้ คุณก็ฟ้องร้องขับไล่ได้ แต่ก่อนจะฟ้องร้องคงต้องโอนที่ดินนั้นมาใส่ชื่อคุณหรือแม่คุณเสียก่อน
2. ก็มีผลอยู่ไม่น้อย เพราะเท่ากับยินยอมให้เขาใช้ที่ดินนั้น
3. ถ้าบอกเลิกการอนุญาตแล้ว เขาก็ไม่มีสิทธิ
4. บอกไม่ได้หรอกว่าจะชนะหรือแพ้ เพราะขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีในศาล