ผมได้ซื้อบ้านแล้วได้ขาดส่งระยะหนึ่งจนแบงค์ได้ทำการขายทอดตลาด ซึ่งระหว่างนั้นทางผมเองก็ได้เดินเรื่องเพื่อทำการผ่อนผัน (ซึ่งแบงค์บอกว่ายังมีสิทธิ์อยู่)และผมพยายามติดต่อกับแบงค์โดยตลอด ขณะนั้นผมก็ให้คนเข้ามาเช่าบ้านอยู่เดือนล่ะ 4000 โดยจ่ายล่วงหน้า 2 เดือนเป็นมัดจำ และได้มีการซ่อมแซมส่วนที่สึกเหรอให้ ระหว่างนั้นแบงค์ก้ติดต่อมาอีก โดยโทรมาที่บ้าน คนเช่าได้เป็นคนรับ ทำให้เกิดปัญหาระหว่างเรากับผู้เช่า เพราะผู้เช่าบอกว่าเขาจะไม่จ่ายค่าเช่าให้เราเพราะเราไม่ใช่เจ้าของบ้าน ผมก็ได้ติดต่อกับแบงค์อีก แบงค์บอกได้ประกาศขายไปแล้ว ให้เราประมูลซื้อเอง (ตอนนั้นแบงค์บอกยังไม่มีคนประมูลนอกจากเรา) ถัดจากนั้นไม่กี่วันแบค์โทรมาบอกว่ามีคนร่วมประมูลด้วย พอถึงวันเปิดซอง คนที่ร่วมประมูลกลายเป็นผู้เช่า เราจึงไม่สู้ปล่อยเลยตามเลยไป ตอนนี้เท่ากับว่าบ้านถูกผู้เช่าประมูลซื้อไป
คำถาม
1. เรามีข้าวของอยู่ในบ้านซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าสภาพเป็นยังไงบ้าง เราจะเข้าขนย้าย จะต้องทำยังไง
2. สิ่งที่เราตกแต่งเพิ่มเติมเราสามารถ รื้อถอน ออกได้หรือไม่ เช่น ประตูเหล็ก เหล็กดัด แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น
3. ผู้เช่าทวงเงินค่ามัดจำคืน ในขณะที่เขาเองก็ไม่ได้จ่ายค่าเช่าให้เลย ควรทำอย่างไร และเราได้นำเงินส่วนนั้นทำการซ่อมแซมบ้านให้ไปแล้ว
4. อย่างนี้เรียกว่า แบ็งค์ร่วมกับผู้เช่าฉ้อโกงเราได้หรือไม่
1. ก็ไปบอกเจ้าของรายใหม่ให้เขารู้ว่าของอะไรเป็นของเรา เพื่อขอเขาขนออกมา
2. อะไรที่ติดตาย ก็เอาออกไม่ได้ สำหรับแอร์และเครื่องทำน้ำอุ่นนั้น ต้องไปดูว่าตอนธนาคารยึดเขายึดไปขายด้วยหรือไม่
3. ถ้าเขารับโอนบ้านวันไหน เขาก็ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเมื่อนั้น ก่อนหน้านั้นเขายังมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าเช่า เพราะฉะนั้นจึงต้องคำนวนเอาเองว่าจะต้องจ่ายค่ามัดจำคืนเขาหรือไม่ หรือจะหักไว้เป็นค่าเช่าที่เขามีหน้าที่ต้องจ่าย
4. ไม่ได้หรอก แต่เป็นเพราะคุณไม่รู้กฎหมาย และนึกว่ารู้ จึงพยายามทำอะไร ๆ โดยนึกว่าจะเป็นการดี แต่แท้ที่จริงแล้วอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น สิ่งที่จะต้องระวังต่อไปก็คือ เมื่อเขาขายบ้านแล้ว แน่ใจได้ว่าหนี้จะยังไม่หมด และธนาคารจะหายหน้าไปสักพักหนึ่ง ในฐานะที่คุณนึกว่าคุณรู้กฎหมาย คุณก็จะนึกต่อไปว่าหมดหนี้แล้ว แต่แท้ที่จริงหนี้นั้นยังเดินหน้าด้วยดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด (ประมาณร้อยละ ๒๐ ต่อปี) เพียงไม่ช้าหนี้นั้นก็จะเพิ่มพูนเป็นหลายเท่าตัว และในที่สุดเขาก็จะฟ้องล้มละลาย
ที่ผมใช้คำว่า คุณไม่รู้กฎหมาย แต่นึกว่ารู้ นั้น ก็อาศัยจากการที่คุณเล่าให้ฟัง ว่า เมื่อธนาคารประกาศขายทอดตลาดแล้วคุณยังคิดว่าเขาจะผ่อนผันให้ได้ แท้ที่จริงมันไปไกลกว่าที่จะผ่อนผันแล้ว เพราะแสดงว่าเขาฟ้องร้องคุณเรียบร้อยแล้ว แต่คุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่เป็นอย่างนี้ ถ้าอ่านคำถามของคนอื่น ๆ ก็จะรู้ว่าแต่ละคนมักจะหาทางแก้ไขปัญหากฎหมาย โดยไม่รู้ว่ากฎหมายเป็นอย่างไร และลงท้ายทำนองเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครคิดจะไปปรึกษาทนายความเพราะเสียดายเงิน แต่ในที่สุดความเสียหายจะเกิดขึ้นจนหมดตัว และล้มละลาย ได้