ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    015543 ปัญหากับสรรพากรทุกข์ใจ2 ธันวาคม 2548

    คำถาม
    ปัญหากับสรรพากร

    เรียนอาจารย์มีชัย

    เมื่อประมาณ ปี 2538 สพก.จังหวัด มีหนังสือให้เข้าชี้แจง โดยแจ้งว่าพบรายจ่ายต้องห้าม

    ในการยื่นงบ ปี 2536 และ 2537 โดยมีรายละเอียดคือ คนทำบัญชีได้นำเอาใบลดหนี้ภาษีซื้อ

    ของทั้ง 2 ปี ไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายของห้าง ทำให้เสียภาษีน้อยลง ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ปรากฎ

    แต่ผมได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ไม่ได้มีเจตนาทำให้ชำระภาษีน้อยลง เนื่องจากปรากฎหลักฐาน

    ชัดเจนว่า ผมได้ยื่นแบบรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยนำใบลดหนี้ภาษีซื้อ ออกจากรายงานภาษีซื้อ

    ทุกเดือนทั้ง 2 ปี เพียงแต่ผมดูงบดุลไม่เป็น ก็เลยเซ็นรับรองงบ

    หลังจากที่ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ สพก.จังหวัดแล้ว เรื่องก็เงียบหายไปประมาณ 2 ปี

    ก็มีหนังสือเชิญเข้าพบใหม่ ในประเด็นเดิมแต่ เปลี่ยนตัวบุคคล โดยบอกว่า เจ้าหน้าที่คนเดิม

    ย้ายไปจังหวัดอื่นแล้ว ก็ดำเนินการสอบปากคำใหม่ จากนั้นได้ประเมินภาษี พร้อมเบี้ยปรับ

    เงินเพิ่ม ซึ่งคำนวนตั้งแต่ปี 2536

    ผมได้ทักท้วงว่า ในส่วน 2 ปี ที่ทาง สพก.เงียบหายไปนั้น ไม่น่าจะเรียกเก็บเงินเพิ่ม 1.5

    ต่อเดือนจากผม ก็ปรากฎว่า ทาง จนท.ยังยืนกรานตามเดิม

    ผมจึงดำเนินการอุทธรณ์การประเมิน (โดยมีผู้อาสา ว่าจะช่วย) แต่ผลปรากฎว่า อุทธรณ์ตก

    เนื่องจากไปอุทธรณ์ว่า ขอลดภาษี ซึ่งผมแจ้งว่า ขออุทธรณ์ให้งดเบี้ยปรับลดเงินเพิ่ม

    เนื่องจากไม่มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษี ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเป็นอย่างดี

    เมื่ออุทธรณ์ตก ผมเกิดความเครียดมาก เพราะตัวภาษีประมาณ 4 แสนกว่า รวมเบี้ยปรับ

    1 เท่า เงินเพิ่ม 1.5 ต่อเดือน รวมเป็นเกือบล้านบาท ทำให้ผมต้องเลิกกิจการ ที่มีรายได้

    แค่เดือน 2-3 หมื่นบาท หลังจากนั้นผมก็ไปขอผ่อนชำระ ทาง สพก.ก็รับชำระมาเรื่อย ๆ

    อยู่ปีกว่า ๆ โดยที่ไม่มีใครบอกเลยว่า ที่ผมส่งไปนั้น ไม่มีผลให้ยอดเงินลดลงแต่อย่างใด

    เนื่องตัวภาษียังอยู่ เงินเพิ่ม 1.5 ก็ยังคิดไปเรื่อย ๆ กว่าจะรู้เรื่องผมก็ผ่อนชำระไปเกือบ

    แสน แต่ยอดเงินรวมไม่ได้ลดลงเลย จนกระทั่งญาติช่วยชำระตัวภาษีให้ เพื่อให้เงินเพิ่มหยุด

    จากวันที่คำวินิจฉัยอุทธรณ์ตกลงมา (ปี 2542) จนบัดนี้ ผมยังคงค้างตัวเบี้ยปรับเงินเพิ่ม

    อีกเกือบ 6 แสนบาท บัญชีธนาคารต่าง ๆ ก็ถูกอายัด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ สพก. คนใหม่

    ก็ตามตัวไปพบบอกว่า ได้ตรวจพบว่า มีที่ดินในชื่อของผม 2 แปลง แปลงหนึ่งราคาประเมิน

    ประมาณหมื่นกว่า (ที่จัดสรร) อีกแปลงหนึ่งราคาประเมิน 9 แสนบาท (ที่ของคุณแม่

    แต่คุณแม่ครอบครองไม่ได้ เนื่องจากถือต่างด้าว) จะยึดที่ดินเพื่อขายทอดตลาด

    ตอนนี้ผมเครียดมาก งานการไม่เป็นอันทำ ธุรกิจเดิมก็ปิดไปแล้ว พอจะตั้งต้นตั้งตัวใหม่

    ก็มาเจอปัญหานี้อีก ไม่ทราบว่าจะหาทางออกได้อย่างไรบ้าง

    จึงขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์ว่า หากกรณีนี้เป็นอาจารย์ ๆ จะหาทางออกอย่างไรครับ

    (ขออภัยที่อธิบายยาว)

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

    คนทุกข์ใจ

     

    หมายเหตุ ...

    สมัยทำธุรกิจ ผมตั้งใจทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่บางประเด็นผมถูก

    เจ้าหน้าที่ สพก.ว่า " โง่ "  เช่น การที่ผมบันทึกเงินเดือนของผมตามความเป็นจริง

    การที่ผมแสดงรายการเงินเดือนของพนักงาน ตามความเป็นจริง ว่ามีกี่คน ๆ ละเท่าไหร่

    สพก. บอกว่า ผมจะ make ตัวเลขก็ได้ ลูกจ้างก็หาชื่อมาใส่เพิ่มเป็นสัก 7-8 คน

    จากที่มีจริงเพียง 3 คน เพื่อให้มีรายจ่ายที่สูงขึ้น ... แบบนี้แหละครับที่ทำให้ผม

    เครียดและรู้สึกทำใจไม่ได้ว่า ทำไมในเมื่อผมตั้งใจเป็นพลเมืองที่ดี เป็นผู้ประกอบการ

    ที่ดี ทำไมผมต้องมาโดนเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย

    ... ก่อนมีการประเมิน มีการถามว่า " น้อง พอจะมีค่าขนมให้เจ้าหน้าที่หรือไม่ล่ะ

    ซึ่งมีหลายคน หลายฝ่าย หากจะต้องช่วยทำให้ตัวเลขมันน้อยลง ยากนะ ..เพราะ

    บางคนก็ย้ายไปแล้ว ..." พอผมทำใจยอมรับไม่ได้ ก็เลยโดนประเมินเต็ม ๆ ครับ

    เรื่องนี้ ปัจจุบันมีผู้ใหญ่บางคน ยังคงตำหนิผม ว่าเป็นเพราะผมหัวแข็งนั่นเอง

     

    คำตอบ

      เรียน ทุกข์ใจ

           เมื่อเรื่องล่วงเลยมาถึงป่านนี้แล้ว จะไปฟ้องร้องก็คงไม่ได้แล้ว ทางที่ดีควรไปติดต่อกับ สพก.เพื่อขอให้ทำเรื่องประนอมหนี้และผ่อนชำระให้เป็นเรื่องเป็นราว

          เรื่องของภาษีนั้นอาศัยความซื่ออย่างเดียวไม่ได้หรอก

     

     

     

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    2 ธันวาคม 2548