เรียน  คุณมีชัย

หนูเพิ่งเรียนจบได้ประมาณ ปีกว่าๆค่ะแต่ไม่ใช่เกี่ยวกับด้านการบริหารหรือการเงินเลย  พอเรียนจบก็ได้เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจจากคุณพ่อคุณแม่ซึ่งมีอายุมากแล้ว  ด้วยความที่ระหว่างเรียนได้มาช่วยและคลุกคลีกับธุรกิจครอบครัวมาตลอด  จึงได้รับรู้ว่าธุรกิจเราได้กู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่งมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นที่ดินที่มีการประเมินราคาไว้กว่า 30 ล้านบาท ทางเรามีการผ่อนชำระมาเรื่อยๆ กว่า 10 ปีจนกระทั่งปีที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ลูกค้าที่เคยเป็นลูกหนี้ที่ดีเกิดผิดนัดชำระหนี้  หลายๆรายเข้าก็เกิดเป็นยอดหนี้ที่ไม่สามารถเก็บได้กว่า15 ล้านบาท  หลังจากนั้นเราประคับประคองธุรกิจมาตลอดโดยการกู้เงินแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มบริษัทซึ่งมีการชำระดอกเบี้ยมาตลอดจนปัจจุบัน และอีกกลุ่มคือหนี้ในชื่อคุณพ่อซึ่งกำลังถูกฟ้องร้องอยู่ขณะนี้  หนี้กลุ่มคุณพ่อได้รับการปรับโครงสร้างหนี้มาหลายครั้ง จนตอนนี้เราเป็นหนี้กว่า 25 ล้านบาท ซึ่งหนูก็ยอมรับในจุดนี้และพร้อมจะที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย   หากแต่ตอนนี้ทางธนาคารได้ฟ้องร้องเราและคุณแม่(ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน)ได้ 

ขี้นศาล มาแล้ว 2 ครั้ง ทางศาลท่านก็ให้โอกาสเราเนื่องจากเรากำลังจะขายที่ดินผืนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ดินผืนที่เราใช้ค้ำประกันเงินกู้ในคดีที่ถูกฟ้องร้องนี้  และที่ดินนี้เราสามารถขายได้เงินเพียง 15 ล้านบาทโดยเงินทั้งหมดคุณแม่ตั้งใจจะยกให้แบงค์เพื่อชดใช้หนี้ธนาคารทั้งหมด  คำถามคือ  เป็นไปได้ไหมค่ะที่เราจะนำเรื่องนี้ขื้นให้ศาลพิจารณา ในการขึ้นศาลคราวหน้าเดือนธันวาคมนี้ โดยการให้ธนาคารพิจารณาลดยอดหนี้ลงให้เหลือเท่าที่เราจะสามารถจ่ายคืนได้คือ 15 ล้านบาท คำถามที่สองคือ ราคาที่ดินที่ธนาคารประเมินไว้หลายปีแล้วนั้นเป็นราคาประเมินที่สูงเกินจึงกว่าเท่าตัวโดยราคาที่ดินโดยรอบนั้นต่ำมากเพียง 80000-100000 เท่านั้น แต่ธนาคารประเมินไว้ถึงไร่ละ 200000บาท  ซึ่งมันจะมีผลต่อการพิจารณาขอลดยอดหนี้รึปล่าวค่ะ   คำถามที่สาม มีหน่วยงานใดบ้างที่เกี่ยวข้องและพอให้คำปรึกษาได้ค่ะ   ช่วยกรุณาตอบคำถามด้วยน่ะค่ะ ขอขอบคุณค่ะ.

เรียน หนูดี

       การเจรจาประนอมหนี้นั้น ทำได้ทั้งในศาลคือทำต่อหน้าศาล และนอกศาล ไม่มีอะไรห้าม ถ้าตกลงกันได้ศาลท่านก็จะตัดสินให้ไปตามนั้น แต่การเจรจาคงต้องอาศัยทนายความที่รู้ลู่ทางเพื่อจะได้ต่อรองได้   แต่ส่วนใหญ่จะเจรจาลดลงได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับว่าฐานะของลูกหนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นใดให้เขายึดได้หรือไม่ ถ้าฐานะลูกหนี้และผู้ค้ำประกันยังดีอยู่เขาก็คงเรียกเอาเต็มที่

ส่วนที่ถามว่ามีหน่วยงานใดให้คำปรึกษาบ้างนั้น คำตอบก็คือทนายความ ส่วนหน่วยงานของรัฐคงไม่เข้ามาทำให้เพราะไม่ใช่เป็นหนี้รายย่อย