ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
    กิจกรรม - สัมภาษณ์
  • สัมภาษณ์คนดัง
  • คำสำคัญ
     
     
    สัมภาษณ์คนดัง

    ดร.ณัฐกฤษฎ์ ทิวไผ่งาม กรรมการผู้จัดการ บริษัทณัฐหทัย จำกัด

    คุณณรงค์ และคุณอุษา ทิวไผ่งาม ดำเนินกิจการ โรงเรียนทิวไผ่งาม ย่านจรัญสนิทวงศ์ 46 มานานกว่า 27 ปี และวันนี้ ดร.ณัฐกฤษฎ์ ทิวไผ่งาม บุตรชายคนสุดท้องของครอบครัวทิวไผ่งาม ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ หลังจากที่ ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้เป็นพี่สาว ได้ผันตัวเองไปทำงานการเมือง

    ดร.ณัฐกฤษณ์ ทิวไผ่งาม จบการศึกษาที่ คณะนิติศาสตร์ บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปศึกษาต่อยัง Master Of Legal Institution University of Wisconsin และ Doctor of Juridical Science จากสถาบันการศึกษาเดียวกัน

    นอกจากโรงเรียนทิวไผ่งาม ในหน้าที่ดูแลนโยบายทางการศึกษา ที่คุณพ่อณรงค์และพี่สาว ได้ปูรากฐานไว้แล้ว ดร.ณัฐกฤษณ์ ยังดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทณัฐหทัย จำกัด กับอาคารโครงการทิวทาวเวอร์ ด้วย

    “จริงๆ แล้วผมไม่ได้คิดที่จะทำงานด้านการศึกษามาก่อน ใจจริงนั้นอยากทำงานเกี่ยวผู้พิพากษา หรืองานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธธรม แต่งานทุกอย่างนั้นล้วนมีคุณค่า ล้วนมีเสน่ห์ในแต่ละงานในแต่ละอาชีพ งานที่ผมทำอยู่อาจไม่ตรงกับเรียนมา แต่ส่วนหนึ่งเราเองก็เป็นคนที่ชอบสอนคน คือ ผมอยากสร้างคนที่มีคุณภาพขึ้นในสังคม ตรงนี้เป็นสิ่งที่ยาก และเป็นสิ่งสำคัญ เป็นงานต้องอาศัยความรับผิดชอบมาก เพราะเด็กนักเรียนจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่โรงเรียน อยู่กับอาจารย์ เราจะทำอย่างไรให้เค้าเป็นเด็กนักเรียนที่ดี และเป็นคนดีด้วย เพราะฉะนั้น การปลูกฝังจริยธรรม ควบคู่ไปกับการเรียนดี เป็นเรื่องที่ทำยากมาก

    สำหรับหลักสูตรการศึกษา และนโยบายการเรียนการสอน มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย เช่นเรื่องเทคโนโลยีซึ่งไปเร็วมาก คอมพิวเตอร์ จะมีการเรียนการสอนกันตั้งแต่เด็กเล็ก ในอัตราส่วนที่สูงมาก 1 ต่อ 5

    เนื่องจากโรงเรียนทิวไผ่งามเป็นเอกชน ได้รับการสำรวจในเรื่องการเรียนการสอน ความพร้อมของครูและนักเรียน นั่นหมายถึงความพร้อมในระบบการศึกษาแบบใหม่ เราจะทำได้ดี โรงเรียนของเรามีรากฐานทางจริยธธรมที่ดี ตั้งแต่เด็กๆ โดยเริ่มจากการอบรมครู ต้องมีมารยาทที่ดีก่อน แล้วจึงไล่ลงมาถึงเด็กในปฐมวัย อนุบาล เน้นให้เด็กมีจินตนาการที่กว้างไกล และมีอิสระทางด้านความคิด

    เราได้พัฒนาหลักสูตร การสอนโดยเอาหลักสูตรมาจากอเมริกา หรืออังกฤษ ที่ได้รับการยอมรับ และช่วงที่ไปเกาหลี ผมไปพบหลักสูตรการเรียนการสอน ซึ่งบริษัท Hansal ของเกาหลี นำเอาทฤษฎีทางการแพทย์ของนักวิชาการชื่อดังของอเมริกา 2 คน มาขยายความเป็นทั้งความคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างเป็นระบบ และการเรียนรู้การแก้ปัญหา ผมจึงตกลงเซ็นสัญญาซื้อแฟรนไชส์หลักสูตรนี้ ในราคา 4 แสนเหรียญ ภายใต้ระยะเวลา 6 ปี เพื่อสร้างฐานการเรียนการสอน ให้เด็กไทยนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ดีกับตัวเด็กและประเทศชาติ หลักสูตรนี้จะใช้กับโรงเรียนทิวไผ่งามเป็นโรงเรียนแรก”

    นอกจากองค์ประกอบต่างๆ ที่กล่าวมา สิ่งสำคัญที่ ดร.ณัฐกฤษณ์ มองในเรื่องระบบการศึกษา ต้องเตรียมให้กับเด็กและเยาวชนก็คือ ความสุขในการเรียน และรู้จักการมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีม

    “เนื่องจากสังคมในปัจจุบัน มีการแข่งขันค่อนข้างสูง มุ่งเน้นให้เด็กเล่าเรียนเพื่อสอบแข่งขันแต่เพียงอย่างเดียว ประเทศจะได้เด็กที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว ไม่สนใจส่วนรวม”

    และในปี 2540 นับเป็นปีที่ครอบครัวทิวไผ่งาม ได้ลงทุนส่วนตัวในการก่อสร้างโครงการทิวทาวเวอร์ พร้อมทั้งกู้ในต่างประเทศมาสมทบอีก 8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อสร้างโครงการทิวทาวเวอร์ คอนโดมิเนียม 30 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา “แต่เมื่อเกิดสภาวะเงินบาทลอยตัว ก็หมดเงินทำต่อ รวมถึงผู้รับเหมาก็ทิ้งงานอีก จนเกิดการฟ้องร้องกันขึ้น ซึ่งผู้ให้กู้เป็นบริษัทเดียวกันจากประเทศเกาหลี ทำให้ความความจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศเกาหลี เพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อเจรจาเรียบร้อยแล้ว จึงทำการรีไฟแนนซ์กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้กู้เงินมาต่อยอดสร้างคอนโดมิเนียมอีก 300 ล้านบาท

    “ขณะนี้ต้องถือว่างานคืบหน้าไปมากแล้ว เหลือแต่เพียงการตกแต่งเท่านั้น และพร้อมจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2547 สำหรับราคาขายต่อหน่วยต่อตารางเมตร ต่ำสุด 41,000 บาท สูงสุด 50,000 บาท เพิ่มขึ้นจากราคา ที่เคยตั้งครั้งนิดหน่อย และอาจถือว่าเป็นคอนโดมิเนียมริมเจ้าพระยาแห่งสุดท้ายก็ว่าได้ เพราะโครงการใหม่แทบจะไม่มีแล้ว และจากกระแสที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเติบโต เมื่อกลุ่มทุนจากประเทศเกาหลี ชักชวนให้เข้าร่วมทุนทำโปรเจ็กต์ใหม่ จึงตกทันที และเกิดโครงการรีสอร์ทและสนามกอล์ฟ บนเนื้อที่ 600 ไร่ ที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ. จันทบุรี รวมมูลค่าที่ลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท”

    ดร.ณัฐกฤษฎ์ เล่ารายละเอียดของโครงการว่า “คาดว่าจะเริ่มประมาณปีนี้หรือไม่ก็ปีหน้า โดยร่วมทุนกับกับมิสเตอร์ M.H Jung ประธานบริษัท homemail.net และมิสเตอร์ H.J. CHUNG TOMAS ประธานบริษัท Vaticano Inc. มีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติและเกาหลี เพราะว่าคนเกาหลีชอบตีกอล์ฟมาก การลงทุนจะใช้เงินจากเกาหลีทั้งหมด และเตรียมจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ สัดส่วนถือหุ้น เกาหลี 40% แต่เป็นฝ่ายออกเงินทุน 90% ฝ่ายผมถือ 60% แบ่งเป็นบริษัทณัฐหทัย อีก 10% โดยตีค่าหุ้นจากทุนที่ดินบางส่วน และการรับบริหารโครงการทั้งหมด

    แม้จะเหนื่อยแค่ไหน ทายาทหนุ่มตระกูลทิวไผ่งามคนนี้ ก็ยังไม่หยุด พร้อมสร้างโครงการใหม่ ในจังหวัดนครปฐม อำเภอนครชัยศรี เป็นโครงการรีสอร์ทกึ่งแคมปัส เนื้อที่พัฒนาประมาณ 100 ไร่ มีอุปกรณ์ซัมเมอร์แคมป์แบบฝรั่ง เพื่อนักเรียนและพนักงานบริษัท เป็นการสร้างสรรค์และเพิ่มความสามัคคี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเขียน เงินทุนเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท”


    19 กุมภาพันธ์ 2547