ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
    กิจกรรม - สัมภาษณ์
  • สัมภาษณ์คนดัง
  • คำสำคัญ
     
     
    สัมภาษณ์คนดัง

    ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดขอนแก่น

    ณ วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากจังหวัดขอนแก่น รวมถึงตำแหน่งนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยคนที่ 7 ในฐานะศรีภรรยาของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอีกบทบาทหนึ่งที่กลายเป็นขวัญใจของบรรดาชมรมภรรยาหลวง กับการรณรงค์ให้สังคมไทยยึดมั่นในเรื่อง “ผัวเดียวเมียเดียว”

    คำถาม : หน้าที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้

    คุณระเบียบรัตน์ : สำหรับงานที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้ ก็คืองานของทางสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม และดิฉันประกาศนโยบาย 3 ข้อ คือ หนึ่ง การสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข สอง ให้ภรรยาผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 75 จังหวัด เป็นศูนย์รวมที่พึ่งและความหวังของประชาชน และ สาม ทำงานปัญหาด้านโรคเอดส์ครบวงจรให้ลงไปสู่เป้าหมายตรง รวมถึงช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อ เพื่อถวายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยที่จังหวัดขอนแก่น มีทั้งหมด 25 ศูนย์ระดับอำเภอ และทำถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ 74 จังหวัด อีก 851ศูนย์

    สำหรับบทบาทในกรรมธิการสตรี เด็กและผู้สูงอายุ พยามยามที่จะผลักดันให้เกิดพระภิกษุณีออกสู่สาธารณะ แต่สำหรับเรื่องนี้เป็น เรื่องของสังคมไทยสอนว่า ลูกผู้ชายโตขึ้นต้องเป็นเจ้านาย งานบ้านงานเรือนจับไม่ได้ เป็นงานต้อยต่ำ เพราะเป็นงานของผู้หญิง พอมีระบบศาสนา ศาสนาพุทธรับเอาฮินดู-พราหมณ์เข้ามา ในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ผู้หญิงต่ำต้อยมาก ประจำเดือน น้ำตาผู้หญิง เป็นเรื่องสกปรก ผู้หญิงจับพระเวทย์ไม่ได้ จับคัมภีร์ไม่ได้ นี่คือ อารยธรรม วัฒนธรรม ที่ถูกปลูกฝังมาจากศาสนา

    แต่ในศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าท่านมีสายพระเนตรกว้างไกลมาก ท่านระบุและกำหนดไว้เลยว่า หญิง-ชายมีโอกาสบรรลุธรรมเท่าเทียมกัน ท่านเชื่อมั่นในสติปัญญาของคน ดังนั้น การที่ผู้หญิงจะเข้ามามีบทบาทในพระพุทธศาสนา ท่านไม่เคยห้าม แต่พวกเราไม่ยอมรับตรงนี้ ก็อยากทำให้เกิดภิกษุณีให้ได้

    คำถาม : ในฐานะที่อยู่ในคณะกรรมาธิการ สตรี เด็ก และเยาวชน คิดว่าปัญหาวัยรุ่นในปัจจุบัน มีสาเหตุมาจากอะไร

    คุณระเบียบรัตน์ : ยุคนี้เป็นยุคที่มีหลายองค์ประกอบ เราจะบอกว่ามาจากสภาพสังคมอย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่ครอบครัวมีส่วนสำคัญมาก ปัญหาเกิดทั้งจากเด็กที่มาจากครอบครัวอบอุ่น ครอบครัวที่มีปัญหาเศรษฐกิจ และครอบครัวที่มีผลกระทบรุนแรงก็มี เด็กเหล่านี้ออกมาจากบ้าน เด็กที่มาจากครอบครัวอบอุ่นพ่อแม่สปอยล์ มีเงินเยอะ พ่อแม่มีสตางค์ให้ลูก ก็นึกว่าลูกจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี เด็กเหล่านี้จะมาเช่าบ้านรวมกัน ซื้อสารเสพติดเสพกัน ดิฉันเคยคุยกับเด็กที่ไปบำบัดที่ขอนแก่น เด็กไม่มีเงินหรอก แต่เพื่อนมีเงิน แล้วซื้อมาเสพกัน 6-7 คน นี่คือเด็กที่มาจากครอบครัวอบอุ่น ซึ่งบางครั้งการขาดความใกล้ชิดก็เป็นปัญหาเหมือนกัน

    ส่วนครอบครัวยากจนที่ต้องใช้แรงงาน ทิ้งลูกไว้กับญาติคนเฒ่าคนแก่ โอกาสที่ลูกจะไม่ได้รับความอบอุ่น ก็ทำให้เกิดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย ก็มีโอกาสเกเรได้ และครอบครัวที่พ่อแม่ใช้ความรุนแรง ก็จะเตลิดออกจากบ้านไปเป็นเด็กเร่ร่อน มีโอกาสทำความผิด หรือก่อความรุนแรงได้สูงมาก เด็ก 2-3 พวก เมื่อออกมาสู่สังคมโลกาภิวัตน์และวัตถุนิยม ก็จะทำให้เขาถูกกระทำมากขึ้น ส่วนปัญหาอีกปัญหาหนึ่งก็คือ เด็กผู้หญิงก็ถูกนำไปค้าขายเป็นโสเภณี มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรในขณะที่เขาเร่ร่อน ส่วนเด็กชายก็จะเข้าสู่วงจรค้ายาเสพติด

    เวลานี้ที่เป็นห่วงมาก คือการมั่วเพศที่นำมาสู่เอดส์ ดิฉันทำงานด้านเอดส์ ดิฉันทราบมาตลอดว่า ตอนนี้เด็ก 14-15 ปี มีเพศสัมพันธ์แล้ว บางคนก็ติดเอดส์แล้ว เนื่องจากไม่มีการป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัย จากสถิติการติดเอดส์ของกลุ่มวัยรุ่นในปี 2543 จาก 11% เพิ่มเป็น 17% ในปี 2545 สาเหตุหลักก็คือ 1. ความอยากรู้อยากลอง ความคึกคะนอง และ 2. การมีเพศสัมพันธ์เสรี เข้ากลุ่มกันนอนได้กับทุกคน

    เดี๋ยวนี้สังคมไทยเป็นแบบนี้ไปแล้ว ไม่ถือพรหมจารีย์ ไม่ถือว่าคนนี้เป็นแฟน แต่เป็นคู่ที่นอนสามัคคีกันได้แล้ว เป็นสิ่งที่น่ากลัว และก็ปัญหาของสังคมที่รุมเร้า ทั้งหนังสิอพิมพ์ อินเทอร์เน็ต เข้าถึงครัวเรือนแล้ว สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กเห็นเป็นแบบอย่าง เขาก็ทำตามได้ แล้วอีกอย่างเวลานี้ สมาธิเด็กไทยไม่มี เพราะเล่นเกมยิงกัน มีการนำเสนอแต่ความรุนแรง เด็กเล่นเกมในอินเทอร์เน็ต ใช้แต่ความรุนแรง โผล่ขึ้นมากูยิงๆ ไม่สอนให้เด็กใจเย็น เวลานี้ออกมานอกบ้าน สถานบันเทิงเยอะไปหมด ขณะที่หนังสือพิมพ์ก็ตีพิมพ์ภาพโป๊อนาจารมาลงทุกวันอาทิตย์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ก็ขายได้อยู่แล้ว เพราะว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการคือข่าว และสื่อเองก็จำเป็นต้องมีวิจารณญาณในการนำเสนอข่าวในทุกๆ เรื่องด้วย โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มวัยรุ่น

    ดังนั้น สิ่งที่จะแก้ได้คือ ครอบครัวต้องสนใจ ดูแลเอาใจใส่เด็ก อย่าใช้ไม้แข็ง เราอยากเห็นว่าเพื่อนเขาเป็นอย่างไร ก็ให้เอามาที่บ้าน ต้องดึงเด็กเข้ามาหาตัวเรา สังคมเวลานี้ทำให้เด็กถูกกระทำเยอะ แต่เราในฐานะผู้ใหญ่ ก็ต้องหันมามองตัวเอง ว่าเราทำหน้าที่ตัวเองดีหรือยัง ดิฉันต้องมองตัวเอง ว่าเราเป็นเมียที่ดีของสามีหรือเปล่า เป็นแม่ที่ดีของลูกหรือยัง ถ้าเราหันมาดูสังคม ถ้าแต่ละครอบครัวดี ก็จะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างสังคมได้อย่างถาวร

    คำถาม : ที่มาของการทำสติกเกอร์ ที่ใช้รณรงค์สถาบันครอบครัวในระบบผัวเดียวเมียเดียว

    คุณระเบียบรัตน์ : ทำสติกเกอร์ครอบครัวมาตั้งแต่เดือนมกราคม ก็จะมี “ผัวข้าใครอย่าแตะ, ชมรมปราบผัวอยากมีเมียน้อย, ผมมีลูกมีมีเมียแล้วครับ, ผมรักภรรยาครับ, หนึ่งสามีหนึ่งภรรยา, พาครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข, พ่อกลับบ้านเร็วๆนะ” กลายเป็นเรื่องที่สังคมให้สนใจเรื่องนี้ สติกเกอร์นี้ดิฉันใช้ทุนส่วนตัวทำเองหมด ขายเอง ล็อตแรกเขาคิดเรา 9 บาท พอทำล็อตต่อมาเขาคิด 4.50 บาท ตอนนี้ดิฉันขอต่อรองเหลือ 4 บาท ดิฉันขายทั่วประเทศ เพื่อนำเงินเข้าศูนย์เอดส์ และทั้งประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนในสังคมได้ตระหนักถึงระบบครอบครัว เป็นการปลุกจิตสำนึก ถ้าเห็นอย่างนี้แล้วมันอาจสะกิดใจบ้าง

    แต่ดิฉันไม่หวังกับคนอายุ 40-50 ปี ว่าจะเปลี่ยนแนวคิดเขาได้ ถ้าตราบใดที่จิตใจเขาถูกปลูกฝังมาจากความไม่มีศีลธรรม เอารัดเอาเปรียบกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนใครได้ ดังนั้น ก็ต้องรอให้คนรุ่นนี้ตายไปก่อน เราดัดไม้แก่ไม่ได้ แต่ดิฉันแคร์ไม้อ่อน ที่เกิดขึ้นในแต่ละครอบครัว ว่าทำอย่างไรจะให้เขาเป็นเด็กที่มีวินัย รู้จักให้เกียรติคน รู้จักเหตุผล ไม่เอาเปรียบคน ยอมรับฟังความเห็นคนอื่น รู้จักประเมินตัวเองและสังคม ไม่ใช่ว่าตัวเองดีแล้ว ไม่สามารถรับฟังใครได้เลย หรือพ่อแม่ไม่ได้สอนให้ลูกเรียนรู้ สิ่งนี้ต้องหลอมด้วยศีลธรรม คุณธรรม

    เด็กต้องการใครสักคนที่เป็นที่พึ่ง ใครสักคนที่พูดดีกับเขา ให้ความอบอุ่นกับเขา ใครสักคนเข้าใจ มาเป็นแม่แบบ แต่ทุกวันนี้ พ่อแม่บอกให้ลูกเป็นคนดี ขณะที่พ่อมีเมียน้อย แม่เล่นไพ่ เล่นหวย ห้ามสูบบุหรี่ แต่พ่อสูบ ทำในสิ่งไม่ดี มันทำให้เด็กสับสน ถูกส่งเข้าโรงเรียน มาเจอกับครูซึ่งเป็นพ่อแม่คนที่สอง แต่มาเจอครูที่ไม่มีศีลธรรม เป็นพ่อเล้าค้าเด็ก เอาเด็กทำเมียอีก พอพาเด็กเข้าวัดก็เจอพระไม่ดีอีก พระเดี๋ยวนี้ไม่ได้ดีเสมอไป พระชั่วๆ ค้ายา เสพเมถุน มีเยอะแยะ ดังนั้น ความสมดุลในสังคมต้องมี

    คำถาม : นอกจากสติกเกอร์แล้ว มีมาตรการอะไรอีกบ้าง ที่จะมาช่วยรณรงค์ครอบครัวผัวเดียว-เมียเดียว

    คุณระเบียบรัตน์ : ดิฉันว่าการเปลี่ยนทัศนคติของคนเป็นเรื่องยากมาก ต้องพยามยามปลุกจิตสำนึก อย่างสติกเกอร์ที่ออกมา คือการย้ำคิด ย้ำทำ ย้ำเตือน เป็นการปลุกจิตสำนึก ดิฉันเคยพูดเล่นๆ เวลาออกงานสังคม งานเลี้ยงกับสามี หรือกับแวดวงคนอื่นๆ เวลาชนแก้วกัน แทนที่จะชนเฉยๆ เพื่อสุขภาพแข็งแรง ดิฉันก็จะย้ำถึงระบบครอบครัว บอกว่าขอให้รักเมียกลัวเมีย รักเมียหลงเมียนะ ทำมานานมาก

    คำถาม : คิดว่าจะมีวิธีอย่างไร เพื่อให้ผู้หญิงกลับมารักนวลสงวนตัว

    คุณระเบียบรัตน์ : จริงแล้วเราเองก็มีลูกสาว อยากเตือนวัยรุ่นสมัยนี้ ในฐานะแม่เตือนลูกสาว ให้รักนวลสงวนตัว ถ้าคนรักเขารักเราจริง เขาต้องรอได้ นั่นเป็นข้อพิสูจน์อีกทางหนึ่ง อยากให้ตั้งใจเรียน มองในเรื่องการเรียนเป็นหลัก ความรักนะมีได้ แต่เราต้องทราบว่าเราทำอะไรอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้ว เราเองนั้นแหละที่จะเสียใจ ตรงนี้ทางครอบครัวก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งด้วยนะ ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลแต่ไม่ใช่จับผิด พ่อแม่และครอบคัวต้องเข้าใจเขามากกว่านี้

    คำถาม : สำหรับกิจกรรมยามว่างทำอะไรบ้าง

    คุณระเบียบรัตน์ : กินข้าวด้วยกัน เข้าโรงนวดด้วยกัน ทั้งลูกและท่านปลัด ดิฉันมีลูก 3 คน คนโตจบ ม.ราม เรียนอังกฤษ คนรองจบอักษรฯ จุฬาฯ ลูกชายเรียนโทอยู่ออสเตรเลีย คนโตทำธุรกิจส่วนตัว เรียนบริหารจัดการมาแล้ว ขอเรียนการตลาดเพิ่ม คนที่สอง อยากทำงานกับสมเด็จพระเทพรัตนฯ ในโครงการพิเศษ เป็นลูกจ้าง เขามีความสุขมาก เงินเดือน 6-7 พันบาท แบ่งให้แม่ทุกเดือน

    คนที่สามจะให้เล่นการเมือง เขาเรียนวิศวกรรม ดิฉันให้คำแนะนำเขาว่าเราไม่ได้ทำสงคราม แต่กำลังทำสงครามกับเศรษฐกิจ เลยให้เรียนเศรษฐศาสตร์ การเงินการคลัง เห็นแววเขาตั้งแต่เด็กแล้วว่า เป็นคนที่มีไหวพริบ เขาชอบสังคมกับคนมาก เขาคุยกับคนเก่ง ดิฉันเปิดตัวเขาว่าจะให้เขาลง ส.ส.ที่ขอนแก่นอีก 4 ปีข้างหน้า จะให้ลูกลงการเมือง ดิฉันไม่เคยห้ามว่าลูกจะมีอาชีพอะไร แต่บอกเสมอว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน ก็ขอให้ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม

    คำถาม : ของสะสมที่ชอบสะสมคืออะไรค่ะ

    คุณระเบียบรัตน์ : ดิฉันสะสมแต่เครื่องเพชรปลอม ชอบมากของปลอม วันนี้ก็ใส่ของปลอมทั้งตัว มีเยอะขนาดเป็นตู้ แล้วชอบทุกชิ้น ไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินหรอกค่ะ เพราะมันเป็นของปลอม อย่างแพงที่สุดก็เป็นพัน คือ ถึงจะเป็นของปลอม ดิฉันก็หวงนะ คนเราจำไว้อย่างหนึ่ง ถ้าเรารักสักอย่าง จะเป็นเศรษฐี หรือยาจกเข็ญใจ มันเทียบได้กับของที่เราซื้อมา เรารักมัน เราก็ต้องหวงแหน ดิฉันไม่เคยเอาของเก่าของดิฉันให้ใครเลยนะ ถ้าจะให้ของขวัญใคร ถ้ามันจะสวยกว่าของเรา ดิฉันก็จะซื้อใหม่ให้เขา 


    21 สิงหาคม 2546