ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
    กิจกรรม - สัมภาษณ์
  • สัมภาษณ์คนดัง
  • คำสำคัญ
     
     
    สัมภาษณ์คนดัง

    เบญจพร การุณกรสกุล กรรมการผู้จัดการ “Absolute Yoga Bangkok”

    Bikram Yoga คือโยคะที่คิดค้นและพัฒนาขึ้น Bikram Choudhury ครูฝึกสอนโยคะชาวอินเดีย ที่อาศัยอยู่ในแอลเอ และเป็นครูของเหล่าดาราฮอลลีวู้ด Bikram Yoga เริ่มเข้ามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยเบญจพร การุณกรสกุล ซึ่งได้ไปร่ำเรียน Bikram Yoga มาจากเฮดออฟฟิศที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา

    เบญจพร การุณกรสกุล กรรมการผู้จัดการ “Absolute Yoga Bangkok” เปิดเผยว่า หลังจากเรียนจบด้านการเงิน ก็ใช้เวลาทำงานกว่า 6 ปี ก่อนจะติดใจการเล่น Bikram Yoga ที่ทำให้เธอสุขภาพและอารมณ์ดี และร่างกายผอมเพรียวลง ต้นขาเล็กลง ประกอบกับเป็นช่วงที่เบื่องานด้านเงินๆ ทองๆ และอยากทำธุรกิจของตัวเอง จึงไปเรียน Bikram Yoga ที่อเมริกา ก่อนจะกลับมาเปิด “Bikram Yoga Bangkok” สาขาแรกที่หลังสวน เมื่อเดือนกันยายน 2545 และเปลี่ยนชื่อเป็น “Absolute Yoga Bangkok” หลังจากได้เพิ่มโยคะร้อนอีกแบบ คือ Power "Vinyasa" Yoga ลงไปในคอร์สด้วย

    “เปิดสาขาแรกใช้เงินทุนไปประมาณ 7 ล้านบาท มียอดสมาชิกทั้งหมด 7,000 คน โดยมีสัดส่วนของสมาชิกที่แอคทีฟอยู่ที่ 1,000 คน ถือว่าประสบความสำเร็จ จึงเปิดสาขา 2 ที่ทองหล่อ เมื่อต้นปี 2548 และกำลังจะเปิดสาขา 3 ที่ Sport City บน ถ.ประชาชื่น ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ รวม 3 สาขาเงินลงทุนทั้งหมดก็ประมาณ 10 กว่าล้านบาทแล้ว”

    เบญจพร อธิบายถึง Bikram Yoga ว่า คือโยคะร้อนที่มีท่าพื้นฐานทั้งหมด 26 ท่า จากท่าหัตถโยคะทั้งหมดหลายร้อยท่า ต้องเล่นในห้องที่มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิกายในร่างกาย ระหว่าง 36-40 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อร่างกายยืดหยุ่นและสดชื่นเร็วขึ้น

    “การเล่นโยคะ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ใบหน้าสดใส ระบบเลือดหมุนเวียนดีขึ้น และสามารถลดน้ำหนักได้ด้วย ซึ่งโยคะร้อนจะมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ ร่างกายจึงขับของเสียออกมาได้มาก และถ้าฝึกเป็นประจำติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน จะเป็นการดีท็อกซ์ด้วย”

    "Absolute Yoga Bangkok" ใช้สีชมพูในการตกแต่งภายใน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างพลังและความสดชื่น โดยมีห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัวไว้บริการด้วย

    เบญจพร กล่าวว่า การบริหารสตูดิโอโยคะไม่ยาก แต่เป็นเรื่องจุกจิกเพราะเป็นงานบริการ จึงต้องใส่ใจกับลูกค้าเป็นพิเศษ โดย "Absolute Yoga Bangkok" ต้องตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ในเรื่องความสะดวกสบายในการใช้บริการ ทั้งเรื่องของทำเลที่ตั้ง และตารางเรียนที่เป็นระบบ และครูที่สอนก็ต้องรู้จักวัฒนธรรมไทย ระมัดระวังการเดินระหว่างที่ผู้เล่นนอนอยู่ หรือการจับเนื้อต้องตัว

    “ครูที่สอนอยู่ปัจจุบันจะใช้ภาษาอังกฤษ แต่เราก็มีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ เพราะฉะนั้น อีกไม่นานเราจึงจะมีครูที่ใช้ภาษาไทยในการสอนด้วย ครูภาษาไทยคนแรกของเราคือคุณอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ ซึ่งฝึก Bikram Yoga มานานแล้ว และได้รับการเทรนเพื่อเป็นครูสอนเรียบร้อยแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ก็จะมีครูอีกคนหนึ่งที่ไปเทรนที่อเมริกามาแล้ว และคิดว่าอีกสัก 1 ปี จะมีการสอนทั้งคอร์สภาษาอังกฤษและภาษาไทยในสัดส่วน 50-50”

    ส่วนการขยายสาขาคงจะทำแค่ 3 สาขาที่เป็นของตนเอง หลังจากนั้นก็จะขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจเรื่องโยคะและคุยกันเข้าใจ โดยจะคิดค่าแฟรนไชส์ที่ 8 แสนถึง 1 ล้านบาท ซึ่งราคานี้รวมค่าตกแต่งสถานที่ ค่าอุปกรณ์ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงการอบรมพนักงาน ส่วนค่ารอยัลตี้ ฟี จะหักจากสัดส่วนของสมาชิกในแต่ละเดือน

    “เราไม่อยากจะมีสาขาให้เยอะเกินไป ถึงแม้จะมีตลาดอยู่ แต่ก็ไม่อยากให้แข่งกันเกินไป สาขาของแฟรนไชส์ที่อยากให้เปิดจึงเป็นจังหวัดใหญ่ๆ เช่น ภูเก็ตหรือเชียงใหม่ โดยเน้นลูกค้าคนไทยเป็นหลัก ไม่ใช่นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติ เพราะธุรกิจจะอยู่ได้ก็ต้องมาจากคนชาติเดียวกัน”

    "ลูกค้าของ Absolute Yoga สามารถหมุนเวียนไปใช้บริการต่างสาขาได้ โดยเราจะมีการดูแลแฟรนไชส์ในระบบ หากมีโปรดักท์ใหม่ก็จะมีการถ่ายทอดให้แฟรนไชส์ซีด้วย" เบญจพร กล่าว


    11 พฤษภาคม 2548