เรียนคุณมีชัยที่เคารพ
ดิฉันได้เป็นผู้ค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ให้ญาติคนหนึ่ง โดยนำรถยนต์เข้าไฟแนนซ์กับบริษัทหนึ่ง ราคาเช่าซื้อ 190,032 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 3959บาท ญาติได้ผ่อนมาเป็นเวลา 1 ปี แล้วขาดส่งงวดป็นเวลา 3 งวด บริษัทเรียกค่าเสียหายขาดประโยชน์ 3 เดือนเป็นเงิน9000บาท ต่าใช้จ่ายติดตามยึดรถ 5320บาท บริษัทนำรถขายทอดตลาดได้เงินเพียง 20,000 บาท มีส่วนขาดเป็นราคา114,606บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 128,926บาท ญาติมาบอกภายหลังว่าวันไปรับเงินจากไฟแนนซ์190,032บาท นั้นตนเองไม่ได้ไปรับเองเพราะติดภาระอยู่ แต่มีเจ้าหนี้ของตนซึ่งรู้จักสนิจสนมกับเจ้าหน้าที่บริษัทนี้ดีได้เป็นคนนำเงินออกมาแล้วหักหนี้ที่ตนค้างไว้ก่อนจะนำเงินที่เหลือประมาณ 100,000 บาทมาให้ ญาติไม่มีเวลามาติดต่อสอบถามกับบริษัทนั้นด้วย หลังจากนั้นประมาณ1 เดือนได้มาที่บริษัทเดิมปรากฏว่าปิดบริษัทจึงไม่ได้ติดตามต่อ แต่มีจดหมายจากบริษัทแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดมาติดตามการชำระหนี้แทน
1ดิฉันผู้ค้ำประกันต้องทำอย่างไรบ้างเมื่อมีจดหมายมาแจ้งให้จ่ายค่าเสียหายทั้งหมดภายใน15วันหลังได้รับจดหมาย ได้รับเมื่อ 31ส.ค.56
2.ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายได้จะมีการยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันหรือไม่
3.ทำไมราคาตอนเช่าวื้อให้สูงมากแต่เวลาขายต่ำมาก เงินส่วนขาดจึงมาก
4.มีหนทางประนอมหนี้อย่างไร
1. ในฐานะผู้ค้ำประกัน จะทำอะไรได้ นอกจากรีบหาเงินไปชำระแทนเขา
2. ถึงตอนนี้หนี้นั้นมาเป็นของผู้ค้ำประกันไปแล้ว เจ้าหนี้ก็ย่อมมายึดได้
3. ก็เป็นปกติของบริษัทไฟแนนซ์ที่เขาทำอย่างนี้ เวลาขาย คนที่เป็นหนี้ นึกว่าอยากขายเท่าไรก็ขายไป ไม่ได้สนใจ เขาก็ขายถูก ๆ ให้กับพนักงาน เพื่อเอาไปทำกำไรต่อ ส่วนที่ยังขาดอยู่ก็มาติดตามเอาจากลูกหนี้และผู้ค้ำประกัน
4. ก็ต้องลองไปเจรจากับเขา