คำถาม คือเมื่อปี 2542 ได้นำโฉนดไปจำนอง ค้ำประกันผู้กู้(เป็นลูกชาย) กับธนาคาร ธกส วงเงินจำนอง 120000 บาท ธนาคารให้ 50% 60000 บาท เมื่อปี 56 ได้ไปสอบถามธนาคารเพื่อต้องการจะไถ่ถอนโฉนดออกมา ก็ได้คำตอบว่ามีหนี้ ประมาณ 380000 บาท (ซึ่งมีการให้กู้โดยใช้บุคคลค้ำประกันเพื่อซื้อรถไถ และก็มีการให้กู้ 200000 จากการที่น้ำท่วมพร้อมดอกเบี้ยที่ค้างชำระ) ก็จะไปขอถ่ายสารบบการชำระหนี้ยอด 60000 แรกที่มีการจดจำนองที่ที่ดิน (ตามที่ธนาคารได้ให้ผู้กู้กู้กับธนาคาร) อยากทราบว่า
1.ผู้ค้ำประกัน(แม่) จะต้องรับภาระยอดเงินเท่าไรจึงจะสามารถไถ่ถอนโฉนดได้ตามกฎหมาย (เนื่องจากได้ประสานกับธนาคารก็ได้คำตอบว่าปล่อยไว้ก่อนจะติดต่อผู้กู้เพื่อให้มาชำระหนี้ ซึ่งที่ผ่านมาหลายปีก็ยังไม่มีการชำระเลย ทางธกส.ก็ไม่เคยติดตามผู้กู้เลย คงจะเห็นว่าเป็นหนี้ไม่มาก และก็ไม่เคยติดต่อผู้ค้ำประกัน แจ้งการค้างชำระแต่อย่างไร จึงอยากทราบว่าจะต้องทำอย่างไร เนื่องจากแม่ก็อายุ 80 กว่าปีแล้วต้องการใช้ที่ดินแปลงนี้เพื่อโอนที่ดินให้ลูกๆ ด้วย)
2.ถ้าธนาคารไม่ยอมให้ไถ่ถอนจะต้องดำเนินการอย่างไร (กรณีที่สามารถทราบมูลหนี้จากที่ดินที่จำนองไว้กับธนาคารแล้วว่าเหลือยอดเท่าไร)
3.อยากทราบว่าถ้า 60000 แรกมีการชำระหมดไปแล้วจะต้องรับภาระค้ำประกันส่วนไหนอีกหรือไม่ (เนื่องจากธนาคารจะให้รับหนี้ 120000 ก็ในเมื่อให้ผู้กู้แค่ 60000 และมีการชำระหมดแล้ว แต่จะให้ผู้ค้ำประกันจ่าย 120000 จึงจะให้ไถ่ถอนโฉนด แต่ก็ไม่น่าจะถูกต้อง) ขอขอบพระคุณมากค่ะในคำตอบที่เป็นทางออกที่ถูกต้องค่ะ (ต้องการชำระธนาคารตามที่กฎหมายกำหนดค่ะ)
1. ต้องไปดูสัญญาจำนองว่า ที่จำนองไว้นั้นเป็นเป็นประกันเงินกู้เฉพาะรายแรกรายเดียว หรือประกันหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ถ้าเป็นกรณีแรก ก็ไปถามเขาว่ามีหนี้เท่าไร สำหรับหนี้แรก แล้วก็ชำระให้เขาตามนั้น แต่ถ้าเป็นกรณีหลัง เขามีหนี้ค้างทั้งหมดเท่าไรก็ต้องเอาเงินไปชำระตามนั้น
2. เวลาไปถามเขา หากเขาบอกว่าไม่เป็นไรยังไม่ต้องชำระก็ได้ ก็ขอให้เขาทำเป็นหนังสือว่าต่อจากนั้นจะไม่คิดดอกเบี้ย (อย่าใจอ่อน หรือเกรงใจ เป็นอันขาด เพราะถ้าที่ดินมีราคาสูงมาก ธนาคารก็มักจะปล่อยไว้อย่างนั้นจนกว่าหนี้จะท่วมราคาที่ดิน)
3. ก็ต้องไปอ่านสัญญาจำนองให้ละเอียด