เรื่องมีอยู่ว่าพี่สาวหนูไปสมัครงานเป็นพนักงานขายเครื่องประดับเงิน อยู่แถวประตูน้ำ แต่บริษัท ผลิตอยู่ประชานิเวศร์ 3 ซึ่งทาง บริษัท เค้าให้หาคนมาเซนต์ค้ำประกัน ซึ่งหนูก็ได้เซนต์ค้ำประกันให้พี่สาว พี่สาวหนูก็เลยได้ทำงานนี้ ซึ่งได้รับเงินเดือน 7,000 บาท / เดือน และต่อมาของในร้านสูญหายไป ทางเจ้าของ บริษัท ก็ได้พาพี่สาวหนูไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ และให้หาของมาคืนให้ครบ ซึ่งต่อมาพี่สาวหนูก็ได้รับสาระภาพว่าได้นำของในร้านออกไปจำนำ และขาย และหลุดจำนำไปแล้วก็มี ซึ่งมูลค่าของที่หายไปคิดเป็นราคาขายหน้าร้าน ประมาณ 200,000 บาท ( ของเน้นขายชาวต่างชาติ ) และทางเจ้าของ บริษัท ได้เรียกหนูเข้าไปคุยว่าให้บอกพี่สาวให้หาของมาคืนให้ครบแล้วเขาจะไม่เอาเรื่อง ถ้าไม่ได้ของคืนเค้าก็ต้องแจ้งความในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง หนูไปตามถ่ายของที่ยังไม่หลุดจำนำตามโรงรับจำนำที่พี่สาวเอาไปจำนำไว้ มาคืนเขา เป็นยอดเงินที่จำนำไว้ + ดอกเบี้ย เป็นเงิน16,000 กว่าบาท มาคืนให้เจ้าของ บริษัท ซึ่งของที่หนูนำมาคืนเขาคิดเป็นราคาขายหน้าร้านเป็นเงิน 100,000 กว่าบาท ยังคงเหลือของที่ยังหามาคืนเขาไม่ครบเป็นเงินที่เหลือประมาณ 90,000 กว่าบาท และทางเจ้าของ บริษัท ได้นัดพี่สาวหนูไปคุยกันที่โรงพักอีกครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ช่วยเจรจาว่าให้หาของมาคืนให้เขา ภายในเวลา 3 เดือน ครึ่ง ถ้าหาของมาคืนไม่ได้ ทางเจ้าของ บริษัท เค้าให้ชดใช้เป็นเงิน ซึ่งเค้าคิดค่าเสียเวลาด้วยรวมเป็นเงิน 100,000 บาทถ้วน แล้วเค้าจะไม่เอาเรื่องให้จบกันไป และตอนนี้พี่สาวหนูก็ยังไม่ได้ทำงาน และพ่อแม่ก็มีอาชีพทำไร่ ทำไร่ก็ขาดทุน เป็นหนี้เป็นสินเขา พี่สาวหนูคงหาเงิน 100,000 มาคืนเขาไม่ได้ ภายในเวลาที่กำหนด และทางเจ้าของ บริษัท คุยกับหนูไว้ว่าหนูจะต้องชดใช้แทนพี่สาวกรณีที่พี่สาวหนูไม่ชดใช้ให้เขา เพราะหนูเป็นคนค้ำประกัน และตามสัญญาค้ำประกันระบุไว้ว่าถ้าของสูญหายจะต้องชดใช้เป็นเงิน 2 เท่า ของมูลค่าของที่หาย และบอกว่าเขาอุตส่าไม่คิด 2 เท่าแต่คิดจากราคาขายหน้าร้าน หนูกลุ้มใจมากเลยค่ะ ไม่คิดว่าพี่สาวหนูจะทำอย่างนี้ และหนูก็ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาให้เขา และถ้าหนูไม่มีเงินให้เขา เขาจะแจ้งความจับหนูมั้ยค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ว่าหนูควรทำอย่างไร