เรียน  ท่านมีชัย

แฟนของดิฉันได้ไปค้ำประกันรถยนต์ให้กับเพื่อนแล้วเพื่อนไม่ยอมส่งค่างวด ไฟแนนท์ตามยึดรถและทรัพย์สินของเขาแล้วแต่ยังมีหนี้ค้างอยู่ ไฟแนนท์จึงฟ้องให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ของแฟน  คือโฉนดที่ดิน ขนาด 88 ตารางวา แต่ที่ดินนี้เป็นชื่อของแฟนและแม่ร่วมกัน ตอนนี้กรมบังคับคดีขายที่ได้แล้ว แม่ของแฟนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้ จะขอสอบถามท่านว่า

1.สามารถขอกันส่วนที่เป็นที่ดินของแม่ได้หรือไม่

2.คนที่มาซื้อเป็นนายหน้าที่ดินและเป็นลูกของผู้มีอิทธิพล(ตำรวจ) ทำอย่างไรจะไม่ให้เขาใช้อำนาจมาข่มขู่ได้ เพราะเขาเริ่มมาใช้อิทธิพลแล้ว

3.ตอนนี้เขาจ่ายเงินให้กรมบังคับคดีแล้ว ถ้าเราไม่ย้ายออกจากบ้านแล้วจะมีผลเช่นไร

4.ทำไมต้องขายที่ดินทั้งแปลงทั้งที่มีชื่อของผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมอยู่และไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับการค้ำประกันเลย

5.ทำอย่างไรจึงจะให้ปัญหานี้คลี่คลายไปในทางที่ดีได้

6.ถ้าดิฉันอยากอ่านกฎหมายเกี่ยวกับการค้ำประกันและวิธีการต่อสู้กับพวกไฟแนนท์จะขออ่านได้ที่ไหนบ้างค่ะ

ขอความกรุณาท่านตอบโดยด่วนได้ไหมค่ะเพราะว่าทางแม่เครียดมากและไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเงินจากการขายที่ก็ต่ำเกินกว่าความเป็นจริงเนื่องจากความไม่รู้กฎหมายของชาวบ้าน และการกดขี่ข่มเหงของพวกทำนาบนหลังคน (ไฟแนนท์)ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงไว้เป็นการล่วงหน้าที่ให้คำตอบกับดิฉันในครั้งนี้

ขอแสดงความนับถือ

สุภาภรณ์  ยาลังคำ

เรียน คุณสุภาภรณ์

1. ที่ดินส่วนที่เป็นของแม่ เจ้าหนี้มาเอาไปขายไม่ได้ ถ้าเขามายึดไปก็ต้องไปร้องขัดทรัพย์เพื่อแบ่งแยกที่ดินเสียก่อน หรือถ้าไม่ทันก็ต้องไปร้องขอเงินส่วนที่เป็นของแม่

2. เป็นสิทธิของเรา และเป็นเรื่องระหว่างเรากับเจ้าหนี้ คนซื้อไม่เกี่ยวหรอก

3. ก็ถ้าปล่อยจนเขาขายไปแล้ว ก็คงต้องไปรื้อร้องฟ้องต่อศาล ควรรีบปรึกษาทนายความ

4. ก็เมื่อเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน และเราไม่ได้ไปร้องขอแบ่งที่ดินเสียก่อน ก็เป็นของธรรมดาที่เขาจะขายทั้งแปลง

5. ดูข้อ 3.

6. อ่านประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการค้ำประกัน จะได้รู้ว่า การไปเป็นผู้ค้ำประกันน่ะ ยิ่งกว่าเป็นทาสอีก แต่คนทั่วไปไม่ค่อยให้ความสำคัญ ว่าง ๆ ก็ลองเข้าไปอ่านในหัวข้อ "ค้ำประกัน" ดูบ้างซี ว่าแต่ละคนเขาเจอกันมากันอย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็นประเภท เซ็น ๆ ให้ไปโดยไม่สนใจว่าจะต้องรับผิดชอบมากน้อยเพียงไร