คือว่าแมของหนูไปค้ำประกันรถยนต์ให้น้องของพ่อ (แต่คนละแม่นะคะ) แล้วตอนนี้ลูกหนี้เบี้ยว ไม่จ่ายเงินมาจะเข้าเดือนที่ 5 แล้วคะ เจ้าหนี้ก็โทร.มาตามที่แม่ของหนูทุกวัน หนูไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าลูกหนี้หนีตลอดเลยคะ ปกติลูกหนี้อยู่ภูเก็ตคะ พอเจ้าหนี้ตามไปภูเก็ตเพื่อจะยึดรถก็ไม่เจอ พอไปถามคนแถวนั้นเขาก็บอกว่าลูกหนี้ค้างเงินกับคนแถวนี้มาเยอะแล้วคะ แล้วพอแม่หนูสืบไปสืบมาก็รู้ว่าเขาหนีไปกระบี่แล้วคะ
พอแม่หนูรู้ว่าอยู่กระบี่ แม่หนูรีบโทร.หาเจ้าหนี้ทันทีคะ ตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่ม แม่หนูอยากให้เจ้าหนี้รีบตามไปยึดรถที่กระบี่ทันที แต่เจ้าหนี้ก็ไม่ยอมไปคะ เขาบอกค่อยไปพรุ่งนี้เช้า พอตอนเช้าแม่หนูโทร.ไปตอนประมาณ 9 โมงเช้า เขายังอยู่ที่ภูเก็ตอยู่เลยคะ เขายังไม่ตามไป จนแม่หนูต้องบอกให้เขาตามไป พอประมาณ 11 โมง เขาบอกว่าถึงกระบี่แล้ว
แต่พอแม่หนูโทร.ไปหาลูกหนี้ เขาบอกเจ้าหนี้ว่าตอนนี้เขาอยู่ภูเก็ตให้เวลา 10 วัน เพื่อที่จะให้ลูกหนี้หาเงินมาจ่ายคะ ถ้าหาไม่ได้เขาจะไปยึดรถที่กระบี่
แล้วถ้าหาตัวลูกหนี้ไม่เจอ เราต้องรับผิดชอบทั้งหมดใช่มั๊ยคะ เราจะโดนยึดรถ ยึดบ้านรึเปล่าคะ ตอนนี้ครอบครัวหนูเดือดร้อนมากคะ
หนูจะทำอย่างไรได้บ้างคะ คนนึงก็หนีหนี้ อีกคนก็จะมาโจมตีที่แม่ของหนูเพียงคนเดียว หนูไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดีคะ
ชีวิตของคนที่ใจอ่อนและมองไม่เห็นความสำคัญของการค้ำประกันก็ย่อมลำบากลำบนอย่างนี้แหละ เพราะการค้ำประกันก็คือการที่คนหนึ่งเข้าไปยอมรับผิดชอบแทนคนอีกคนหนึ่งในหนี้ที่เขามีอยู่ จนกว่าหนี้นั้นจะได้รับการชำระจนหมดสิ้น การที่คุณกำลังติดตามให้เจ้าหนี้ไปยึดรถคืนมานั้น แสดงให้เห็นว่าคุณยังมองไม่เห็นถึงความหนักเบาของการค้ำประกันที่เป็นภาระอยู่ เพราะสมมุติว่าเจ้าหนี้เขาไปยึดรถมาได้แล้ว เจ้าหนี้ก็จะนำไปขายทอดตลาด ซึ่งปกติเจ้าหนี้ก็จะให้คนของเขาไปซื้อในราคาถูก ๆ เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะนำไปชำระดอกเบี้ย (ซึ่งจะมีอัตราแพงมาก ร้อยละกว่ายี่สิบ) ถ้ามีเงินเหลือจึงจะนำไปชำระหนี้เงินต้น ซึ่งปกติก็จะไม่พอ เงินต้นที่เหลือนั้นก็จะผลิตดอกเบี้ยต่อไปอีก ไม่ช้าไม่นานก็จะเป็นจำนวนสูงกว่าราคารถเสียอีก แล้วคราวนี้เขาก็จะมาเอาจากแม่ของคุณซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน วิธีที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือ ยอมผ่อนส่งไปทีละเดือนอย่าให้ขาดได้จนกว่าจะครบ ดอกเบี้ยก็จะได้ไม่ต้องเสียแพง ส่วนรถนั้นถ้าได้คืนมาก็เป็นบุญ ถ้าไม่ได้คืนมาก็ถือว่าเป็นการชำระหนี้ที่มีมาแต่ปางก่อน แต่ถ้าไม่สามารถผ่อนส่งต่อได้เพราะบริษัทไม่ยินยอม คุณก็ต้องพยายามติดตามเรื่องว่าเขาจะขายทอดตลาดรถเมื่อไร หรือยื่นข้อเสนอซื้อรถนั้นเสียเอง แล้วหาเงินส่วนที่ขาดชำระหนี้เขาเสีย ได้รถมาแล้วก็เอาไปขายเอาเงินคืนมา
