ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    023815 ผู้ค้ำประกันโดนหมายศาลยึดทรัพย์lekecct29 กันยายน 2550

    คำถาม
    ผู้ค้ำประกันโดนหมายศาลยึดทรัพย์

    เรียน  คุณมีชัย

    ดิฉันได้เคยค้ำประกันพี่ที่รู้จักกันเมื่อปี 2537 ซึ่งเขาไปกู้เงินกับบมจ.เงินทุนหลักทรัพย์เอกสิน ซึ่งต่อมาบมจ.ฯ ได้ปิดกิจการ และในส่วนของลูกหนี้ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งดิฉันก็ได้รับหนังสือเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ในหนี้สินนี้เมื่อเดือน ม.ค.2549 ซึ่งดิฉันก็ได้ติดต่อกับผู้กู้ว่าให้ติดต่อเจรจาชำระเงินด้วย เขาก็รับปาก และก็เข้าไปทำเรื่องผ่อนอยู่ ก็ไม่ทราบว่าเขาผ่อนถึงขั้นไหนแล้ว ยอดค้างชำระเหลือเท่าไหร่

    และจู่ ๆ วันที่ 20 ก.ย.50 ก็มีเจ้าพนักงานที่ดินได้โทรมาแจ้งว่า ทางสนง.บังคับคดีได้ไปถ่ายคัดสำเนาโฉนดที่ดิน ของดิฉันกับสามีมีชื่อร่วม (ซึ่งตอนค้ำประกันดิฉันยังไม่ได้แต่งงาน ดิฉันสมรสและจดทะเบียนเดือน ก.พ.2546) ซึ่งดิฉันยังไม่เคยได้รับหนังสือหรือหมายศาลที่แจ้งเรื่องการดำเนินคดีเกี่ยวกับอายัดทรัพย์สิน และพ่อของสามีดิฉันก็ได้ไปขอถ่ายเอกสารเกี่ยวกับคดีของดิฉันมา ดิฉันก็ได้โทรศัพท์ติดต่อกับบริษัทบริหารสินทรัยพ์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ได้สอบถามถึงเรื่องราวความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงไม่มีหนังสือ/จดหมายแจ้งเรื่องมายังผู้ค้ำประกันเลย และอยู่ ก็จะมายึดทรัพย์กันเลย เขาก็เล่าขั้นตอนให้ฟัง และบอกว่าบอกรายละเอียดมากไม่ได้เพราะไม่ทราบว่าคนที่โทรเข้าไปคุยนั้นเป็นใคร ตรวจสอบไม่ได้ ให้เข้าไปเจรจาต่อรองกันที่บริษัทฯ ดิฉันก็ถามว่า ดิฉันมีสิทธิ์ที่ได้ทรัพย์สินของดิฉันคืนหรือไม่ เขาบอกว่า มีสิทธิ์ แต่ต้องมาไกล่เกลี่ยกัน

    และในวันที่ 24/9/50 ดิฉันก็ได้รับหนังสือประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี เรื่องการยึดทรัพย์ จากสนง.บังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    และต่อมาดิฉันก็ได้พยายามติดต่อกับผู้กู้ ได้สอบถามถึงเรื่องราวความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้เขามายึดทรัพย์ดิฉันได้ เขาก็บอกว่า เขาเคยติดต่อรับปากว่าจะผ่อนให้ต่อ เริ่มในเดือน ก.ค.50 ซึ่งเขาก็ไม่ได้ผ่อนชำระ เพราะเขายังไม่ได้งานทำ เขาเพิ่งได้งานทำในเดือน ก.ย.50 เขาบอกว่ายอดคงเหลือประมาณ 13000 บาท เขาเคยติดต่อแล้วทางบริษัทฯ บอกว่าถ้าชำระหมดก็ไม่ต้องเสียค่าทนายความ 5000 บาท แต่ถ้ายังไม่หมดรวมค่าทนายความด้วย

    ดิฉันอยากทราบดังนี้นะคะ

    1. ทำไมถึงมายึดทรัพย์ในส่วนที่เป็นสินสมรส ( คือที่ดินที่ถูกยึดนี้ ดิฉันกับสามีได้ซื้อต่อจากญาติ โดยจ่ายเงินสด และได้กู้เงินกับธนาคาร โดยผู้กู้คือสามีดิฉัน และพี่น้องของสามีอีก 2 คน รวมเป็น 3 คนผู้กู้ ดิฉันก็ได้ลงชื่อในสัญญากู้เงินธนาคารในฐานะคู่สมรส และนำโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับธนาคาร ) ซึ่งดิฉันได้เป็นผู้ค้ำประกัน ก่อนสมรส

    2. การเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ย จะต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องใช้เอกสารใดบ้าง

    3. กรณีผู้กู้ไม่สามารถไปเจรจาได้ ให้เขาทำหนังสือมอบอำนาจให้ดิฉันไปเจรจาแทนได้หรือไม่  และหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจะต้องให้มีข้อความครอบคุมอย่างไรบ้าง

    4. ถ้าดิฉันสามารถเจรจาชำระเงินกู้ที่ค้างชำระไว้ทั้งหมด จะต้องชำระในส่วนใดบ้าง เช่น ยอดเงินกู้คงค้าง ดอกเบี้ยค้างชำระ และต้องมีค่าทนายความด้วยหรือไม่

    5. สมมุติ ว่าดิฉันดำเนินเรื่องปิดคดีดังกล่าวได้ ดิฉันต้องการให้ทางบริษัทฯ ทำสำนวนเพิกถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าวได้หรือไม่ และดิฉันจะฟ้องกลับในฐานะทำให้เสียชื่อเสียงได้หรือไม่ (กรณีที่ไม่ได้รับการติดต่อก่อนการบังคับคดียึดทรัพย์)

    ขอแสดงความนับถือ

    lekecct

    ** ปล. ถ้าเป็นไปได้กรุณาตอบข้อซักถามภายในวันอาทิตย์ที่ 30/9/50 ได้ไหมคะ เนื่องจากดิฉันจะไปติดต่อกับบริษัทฯ ในวันจันทร์ที่ 1/10/50 นี้  ***

    **ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ **

     

    คำตอบ

    1. เมื่อคุณค้ำประกันเขาแล้ว หากลูกหนี้ไม่ชำระ เขาก็ต้องมาบังคับให้คุณชำระแทนลูกหนี้  การฟ้องร้องคงดำเนินคดีกันมาก่อนแล้ว แต่คุณคงไม่ได้สสนใจ อาจจะนึกว่าไม่ใช่หนี้ของคุณ (ความจริงทันที่ที่เราค้ำประกันใคร หนี้ของคนนั้นก็กลายเป็นหนี้ของเราทันที) เมื่อจะยึดทรัพย์เขาจึงยึดทรัพย์ที่คุณมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของด้วยส (ในฐานะที่เป็นสินสมรส )  ซึ่งถ้าได้เอาใจใส่ คนอื่น ๆ ที่มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมก็คงไปคัดค้านไม่ให้เขายึดได้ แต่เมื่อทุกคนวางเฉย เขาก็มายึดเอาไป

    2. ไม่ต้องมีเอกสารอะไร ก็ลองไปเจรจากับเขาดู เพราะเงินก็เพียงหมื่นกว่าบาทเท่านั้น

    3. ผู้กู้เขาจะไปหรือไม่ไปก็ไม่สำคัญ เพราะตอนนี้ความรับผิดอยู่ที่คุณ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่ง หนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ของคุณแล้วจึงไม่ต้องไปให้ลูกหนี้มอบอำนาจ

    4. หนี้ทั้งหมดนั่นแหละ ส่วนเมื่อชำระให้เขาไปแล้วจึงมีสิทธิมาไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้เดิม  แต่เขาจะมีชำระให้หรือไม่เป็นอีกเร่องหนึ่ง

    5. เมื่อคุณชขำระหนี้ให้เขาหมดแล้ว เขาก็ต้องถอนการยึด แต่การจะเป็นเช่นนั้นได้ คุณก็ต้องไปดูแลที่ศาลเพื่อให้เขาถอนการยึดให้ได้ อย่าปล่อยปละละเลย นึกเอาเองว่าได้ชำระหนี้แล้วเขาคงต้องทำให้  ส่วนเรื่องจะไปฟ้องร้องเขานั้น ลองไปปรึกษาทนายความดูเถอะ

     

    5.


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    29 กันยายน 2550