เกือบ10ปีที่ไม่รู้ว่าภรรยาเก่าไม่ผ่อนบ้านที่กู้ร่วม โดนด้วยซิผม กรรม
เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพอย่างสูง
อันนี้เรื่องยาวหน่อยนะครับ เพราะเรื่องมันเริ่มเมื่อ12ปีมาแล้ว
หลังจากที่ช่วยผ่อนเงินดาวน์ให้แฟนผมจนครบแล้ว ผมก็ได้ลงชื่อเป็นผู้กู้ร่วมกับภรรยาในใบขอกู้เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ในขณะที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
แล้วเราก็ได้จดทะเบียนสมรสในเดือนมิถุนาปี 2539แล้ว เธอได้ดำเนินการในเรื่องการโอนทรัพย์สินจากผู้ขาย จดจำนอง และเข้าครอบครองสิทธิ์ในทรัพย์สินแต่เพียงผู้เดียวและย้ายเข้าเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านโดยผมมิได้มีส่วนร่วม นอกจากการเซ็นใบมอบอำนาจให้เธอ
จากนั้นเราได้จดทะเบียนหย่ากันในเดือนมิถุนายน 2542โดยมีการเขียนแจ้งในเอกสารแนบทะเบียนหย่าว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว จากนั้นมาผมไม่เคยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับทรัพย์สินนั้นเพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินของภรรยาเก่าไปแล้ว
จนกระทั่งเมื่อวานนี้(มิ.ย.10) ผมได้รับใบแจ้งจาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย แจ้งให้ทำการชำระหนี้ซึ่งมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาอีกถึงกว่า 2ล้านบาทจากราคาหลักทรัพย์เดิม และมีชื่อผมเป็นอันดับแรกของลูกหนี้ ในหนังสือแจ้งมิให้ดำเนินการดัดแปลงหรือโยกย้ายทรัพย์จากอาคารพาณิชย์ดังกล่าว และแจ้งที่จะขายทรัพย์สินนั้นทอดตลาดหากไม่มีการไถ่ถอนชำระหนี้ภายในเวลาหนึ่งเดือน และแจ้งว่าผมยังคงมีภาระรับผิดชอบในหนี้ส่วนเกินที่ยังจะเกิดขึ้นหากการขายทอดตลาดไม่สามารถชำระหนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ ในใบแจ้งจากบ.ส.ท.นั้นยังมิได้ระบุว่าผมตกเป็นผู้ถูกฟ้องในคดีใดๆที่เกิดขึ้น
ขอเรียนถามเป็นข้อๆนะครับ
1. การที่ธนาคารดำเนินการต่างๆกับอดิตภรรยาผมโดยที่ผมไม่ทราบเรื่องถึงเกือบ10ปี เริ่มจากการประนอมหนี้ในขั้นต้น ไปจนถึงการโอนหนี้เสียนั้นไปที่บ.ส.ท โดยมิได้พยายามติดต่อให้ผมทราบเรื่องนั้นจะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ *** ผมย้ายที่อยู่2ครั้งแต่ไม่เคยย้ายที่ทำงาน ทางธนาคารมีบันทึกอยู่ตลอดเวลาว่าผมทำงานที่ไหน*** นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทราบมีปัญหา หลังจาก10ปีซึ่งทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้นจนเกินความสามารถของผมโดยสิ้นเชิง ดอกเบี้ยได้ไต่ตัวขึ้นไปเกือบเท่ากับราคาทรัพย์สิน (ต้น 2.5ล.+ ด/บ 2.2ล.)
2. ในหนี้สินที่เกิดจากการซื้อทรัพย์สินที่ผมไม่ได้เข้าไปมีผลประโยชน์หรือถือครองใดๆนั้น จะมีผลต่อรูปคดีอย่างไร
3. ทำไมจึงไม่มีผู้ที่รู้กฏหมายในเรื่องนิติกรรมต่างๆโดยเฉพาะ ทางทรัพย์สินและหนี้สินของคู่สมรสไว้ในที่ทำการเขตเพื่อให้คำปรึกษาแก่คู่สมรสและผู้ที่ต้องการหย่า เพราะในวันที่ผมไปจดทะเบียนหย่า ผมไม่เคยทราบเรื่องของการขอถอนชื่อผู้กู้ร่วมในกรณีหย่าร้างว่าสามารถทำได้ และไม่มีใครแนะนำในเรื่องความเป็นไปได้ของปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังจากการหย่า ผมเสียภาษีปีละเป็นเงินที่มากสำหรับหลายคน และไม่เคยได้ใช้ประโยชน์อะไรจากสาธารณะประโยชน์ที่จัดให้โดยรัฐฯ นอกจากถนนสาธารณะและไฟทาง และนี่หรือคือสิ่งที่ผู้เสียภาษีอย่างผมจะได้รับจากการที่มัวแต่ทำงานเพื่อมีรายได้เสียภาษีให้บ้านเมืองจนไม่มีเวลาจะรับรู้กฏหมายที่ซับซ้อน
ผมหวังว่าอาจารย์มีชัยจะช่วยกรุณาคนซื่อๆที่ด้อยการศึกษา และมองโลกในแง่ดี(เกินไป)ด้วยครับ
Prapan Chankaew
|