การฟ้องโกงเจ้าหนี้ร่วม
เรียน อาจารย์มีชัย
ขอรบกวนถามอาจารย์โดยมีข้อมูลดังนี้
1). ปี 2530 ดิฉันได้ซื้อบ้าน โดยมีชื่อร่วมกับพี่ชาย โดยดิฉันเป็นผู้ชำระผ่อนบ้าน
2). ปี 2535 พี่ชายได้ขอร้องให้นำบ้านไปค้ำจำนอง และได้ชำระเงินผ่อนที่เหลือประมาณ 100,000 บาท เพื่อโอนไปจำนองกับอีก bank เพื่อเปิด OD สำหรับชำระหนี้ในธุรกิจของพี่ชายกับบริษัท A โดยแม่ดิฉันได้ขอร้องให้ช่วยพี่ชายทำให้ต้องลงนามกู้ร่วมเนื่องจากบ้านเป็นชื่อ 2 คน ซึ่งต่อมา ได้ขอวงเงิน OD เพิ่มเป็น 1,250,000 บาท
3). ปี 2542 ดิฉันถูกฟ้อง ให้ชำระหนี้ร่วมกับพี่ชายทั้งหมด ประมาณ 6 ล้านบาท (รวมบ้านของพี่ชายด้วย) ซึ่งเมื่อติดต่อกับ bank ว่า ยินดีให้ยึดบ้านของดิฉันไปเนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาได้ และยอดจำนองยังต่ำกว่าราคาบ้านพร้อมที่ดิน แต่ทาง bank ไม่ยินยอมและให้แยกประนอมหนี้ โดยให้ดิฉันชำระหนี้เป็นเงิน 1,500,000 บาทพร้อมไถ่ถอนบ้านดิฉัน ส่วนที่เหลือติดตามจากลูกหนี้อื่นๆ ให้ผ่อนส่งต่อไป
4). ดิฉันจึงได้กู้สหกรณ์และนำเงินเก็บทั้งหมดมาใช้หนี้ แล้วโอนย้ายจำนองบ้านและที่ดินจาก bank มายังสหกรณ์ออมทรัพย์ พร้อมทั้งได้โอนชื่อเป็นของดิฉันเพียงชื่อเดียว เนื่องจากการกู้ยืมต่างๆ จากสหกรณ์ออมทรัพย์
5). ปี 2550 (พค.) ดิฉัน ได้รับหมายศาลคดีอาญา ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ (จำเลยที่ 2) จากบริษัท B ว่า ร่วมกับพี่ชาย (จำเลยที่ 1) โกงเจ้าหนี้ผู้อื่น ด้วยการปิดบังซ่อนเร้นทรัพย์สิน เพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมด ตามกฎหมาย โดยให้เป็นไปจาการบังคับคดีเอาทรัพย์นั้นได้ (ในหมายศาลมีการฟ้องร้องเอาทรัพย์กับพี่ชายจากบริษัท B)
6). ดิฉันไม่ทราบว่า พี่ชายยังมีหนี้อะไรบ้าง ทำให้ดิฉันลำบากมาก เนื่องจากเป็นข้าราชการ7). จึงเรียนถามอาจารย์ว่า
a. กรณีนี้ ดิฉันจะหลุดหรือไม่ โดยหลักฐานว่า ดิฉันไม่ต้องการบ้านแต่ bank ให้ไถ่ถอนพร้อมบอกให้โอนเป็นชื่อดิฉันเอง เพื่อป้องกันการฟ้องเรียกหนี้อีก (พนักงานแนะนำ แต่ไม่มีลายลักษณ์อักษร)
b. ดิฉันจะจ้างทนายเพราะว่า ไม่มีเวลาเดินเรื่องเอง แต่อยากรบกวนถามอาจารย์ว่า กรณีนี้ ถ้ายังมีบริษัท C, D,.. มาฟ้องกับดิฉันอีก ควรทำอย่างไรในการนี้ให้สิ้นสุด เพราะดิฉันไม่ทราบว่า พี่ชายเป็นหนี้ใครบ้าง และดิฉันเองก็ไม่เจอพี่ชายเลย
ขอคุณความดีที่อาจารย์ได้เมตตาช่วยเหลือ ให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง
นภา |