กราบเรียน ท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพอย่างสูง
กระผมมีเรื่องเดือดร้อนที่จะขอคำปรึกษาช่วยเหลือจากท่านดังนี้ คือ กระผมได้ไปค้ำประกันเงินกู้สินเชื่อสวัสดิการของธนาคารออมสินให้กับเพื่อนที่เป็นตำรวจที่ทำงานในสังกัดเดียวกัน จำนวนเงินกู้ 130.000.-บาท สัญญากู้ 5 ปี หลังจากค้ำประกันได้ประมาณ 1 ปี ก็ได้รับหนังสือจากธนาคารว่าจะหักเงินผู้ค้ำประกันเนื่องจากผู้กู้ไม่ชำระเงิน กระผมจึงไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบว่า เพื่อนชำระเงิน จำนวน 1 งวดเท่านั้น ขณะที่อยู่สังกัดเดียวกันกับกระผม
พองวดที่ 2 ถึง ปัจจุบัน(ประมาณ 2 ปี) ซึ่งเขาได้ย้ายไปสังกัดใหม่ก็ไม่ชำระอีกเลยทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อีกทั้งครอบครัวของกระผมเดือดร้อนเรื่องเงินจะไปขอกู้จากธนาคารก็ได้รับการปฎิเสธเนื่องจากเสียเครดิต กระผมจึงโทรศัพท์ติดต่อเพื่อนให้เขาชำระเงิน เขาก็บอกว่าจะชำระอยู่ แต่ก็ไม่ยอมชำระสักที เมื่อโทรไปหาอีกหลายครั้งก็ไม่ยอมรับสาย เหมือนไม่รับผิดชอบอะไรเลย ทำให้กระผมมีเรื่องทะเลาะกันกับภรรยาเป็นประจำสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวมาก กระผมเคยทำหนังสือไปหาผู้บังคับบัญชาเขา ให้บอกเขาให้ดำเนินการด้วย ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเลย
กระผมจึงอยากจะเรียนปรึกษาท่านอาจารย์ว่า สัญญากู้เงินยังไม่ครบสัญญา ให้เขาหาคนค้ำประกันใหม่จะได้ไหมครับ กระผมมีสิทธิ์ที่จะทำได้ไหมครับ หรือว่าท่านอาจารย์มีวิธีหรือทางออกใดให้ช่วยแนะนำกระผมด้วยครับ กระผมเดือนร้อนจริงๆครับ ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ มาล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ศรศักดิ์
เรียน คุณศรศักดิ์
การให้เขาหาคนค้ำประกันใหม่นั้นย่อมทำได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้เสียก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหนี้จะยินยอมให้ก็ต่อเมื่อคนที่มาค้ำประกันคนใหม่มีหลักฐานดีกว่าคนเก่า
สำหรับทางออกนั้นไม่มีหรอก เพราะลงได้ค้ำประกันใครเข้าแล้ว ก็ถูกผูกพันไปจนกว่าจะมีการชำระหนี้หมด ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระ ผู้ค้ำประกันก็ต้องชำระ เมื่อชำระแล้วก็มีสิทธิไปไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้พร้อมด้วยดอกเบี้ย การค้ำประกันคนอื่นนั้น ในเวลาที่ค้ำประกันทุกคนมักจะไม่ได้นึกว่ามีความสำคัญ ทั้งลูกหนี้และผู้ค้ำประกันต่างก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย สำหรับลูกหนี้นั้นแทบจะไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าเป็นบุญคุณอะไร แต่หารู้ไม่ว่า คนค้ำประกันนั้นได้เอาคอเข้าไปผูกแน่นหนากว่าลูกหนี้เสียด้วยซ้ำไป บทเรียนเหล่านี้ควรที่จะได้จดจำ และหัดไม่เป็นคนขี้เกรงใจในเรื่องนี้