เรียนถามอาจารย์
ผมซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกรมบังคับคดี โดยทรัพย์ที่ประกาศขายเป็นที่ดิน นส.3 ก พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง โดที่ดินมีกรรมสิทธิ์รวม 6 คน คือ ก ข ค ง จ ฉ แต่เป็นจำเลยในการอายัดขาย 1 คนคือ ฉ ในวันขายทอดตลาดไม่มีทั้งโจทย์และจำเลยมาคัดค้านการขาย หลังการซื้อผมได้ไปดำเนินการตรวจสอบเอกสารที่ที่ดินอำเภอที่ที่ดินอยู่ ปรากฏว่าเอกสารสิทธิ์ได้ถูกเปลี่ยนเป็น โฉนดที่ดินตามเอกสาร นส.3 ก และถูกแบ่งแยกเป็นโฉนด 6 แปลงตามรายชื่อหลัง นส.3 ก และมีการโอนเป็นชื่อ 2 คนที่มีกรรมสิทธิ์รวมดังกล่าว คือ 1 ส่วนสำหรับ ก และ 5 ส่วนสำหรับ ข โดยโฉนดลงวันที่ออก 7 กย 54 และมีการเซนต์รับโฉนดวันที่ 14 กย 54 ซึ่งโฉนดทั้งหมด 6 แปลงออกให้โดยกรมที่ดินจากการเดินสำรวจ มิใช่ที่ดินสาขา หลังจากการตรวจสอบข้อมูลที่ที่ดินทราบว่า มีหนังสืออายัดที่ดินจากกรมบังคับคดีลงวันที่ 23 กย 54
อยากสอบถามว่าการซื้อทรัพย์ครั้งนี้สามารถโอนได้มั้ยครับ และถ้าโอนๆได้ทั้งหมดที่แบ่งแยก 6 แปลงหรือเปล่า หรือได้เพียง 1 ใน 6 ครับ
ตอนนี้ผู้ครอบครองเดิมได้ทำเรื่องร้องคัดค้านที่บังคับคดีแล้ว หลังการซื้อขาย 14 วัน แล้วจะมีผลอย่างไรครับ และให้ทนายยื่นฟ้องโจทย์ ตอนนี้ผมต้องทำอย่างไร
ตอนนี้ขอยึดเวลาวางเงินส่วนที่เหลืออยู่ ไม่กล้าจ่ายหมด เพราะถามบังคับคดีก็ตอบแบบกั๊กๆ แบ่งรับแบ่งสู้ ถามที่ดินก็บอกให้ที่บังคับคดีทำหนังสือแจ้งมาก่อน ตกลงจะให้ทำอย่างไร กลัวเสียเงินฟรี และเสียเวลาครับ ไปขอรับเงินคืนส่วนที่จ่ายไปแล้วที่บังคับคดีก็ไม่ยอม บ่ายเบี่ยงไปมา
อยากถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ทำไมไม่มีการตรวจสอบเอกสารก่อนนำออกมาขาย
สุดท้ายถ้าผู้ครอบครองฟ้องเอาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืน จะมีความเป็นไปได้แนวทางใด ช่วยแนะนำและชี้แนะด้วยครับ แนวทางการดำเนินการต่อจากนี้ไป ขอบคุณครับ
ลองกลับไปอ่านประกาศขายให้ดี ๆ ว่าเขาระบุว่าอย่างไร เขาขายที่ดินกี่แปลง มีเนื้อที่เท่าไร และใครเป็นเจ้าของ การซื้อในการขายทอดตลาดน่ะ เป็นการเสี่ยงอย่างมาก เพราะคนที่ขายเขามีหน้าที่ขายตามคำสั่งศาล เขาไม่มีหน้าที่ตรวจสอบ คนซื้อต้องตรวจสอบเอง