เรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพ
หนูมีเรืองรบกวนเรียนถามอาจารย์ค่ะ ชาวบ้านเคยมีเรื่องพิพาทเรื่องที่ดินกับวัด เนื่องจากวัดจะออกโฉนดที่ดิน แต่จะรางวัดที่ดินเขามาในที่ดินชาวบ้านที่มีโฉนดอยู่แล้ว จนมีเรื่องคัดค้าน เวลาผ่านไป 1 ปี วัดยอมที่รังวัดที่ดินของวัดตามที่มีในคำพิพากษาเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว แต่ปัญหาคือ ที่ดินของแม่หนูติดกับที่ดินของวัดส่วนหนึ่ง วันนี้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ทั้งที่ดิน นายอำเภอ อัยการ วัด ประชุม มีความเห็นว่าจะขอรังวัดที่ดินของบ้านหนูใหม่ เพื่อให้รู้ว่าเขตของวัดอยู่ตรงไหน หนูไม่เห็นด้วย เพราะที่ดินหนูมีโฉนดอยู่แล้ว มีขอบเขตชัดเจน ถ้าวัดต้องการรังวัดที่ดินของวัดเพราะออกโฉนด ทำไมต้องมาขอรังวัดที่ดินของแม่หนูด้วยค่ะ หนูสามารถคัดค้านได้ใช่หรือไม่
ประการต่อมา เมื่อเกือบ 30 ที่ชาวบ้านหลายครอบครัวเป็นความกับวัด จนศาลฎีกาตัดสินให้ชาวบ้านชนะ และนำไปสู่การออกโฉนด ทางวัดไม่ยอมมาชี้แนวเขตที่ติดต่อให้กับแม่หนู แม่ก็เลยสละที่ดินส่วนหนึ่งที่ติดกับวัดเป็นแนวยาวกว่า 100 เมตรเป็นทางสาธารณะตามที่ปรากฏในโฉนด เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่กล่าวมา กับวัดมีความคิดว่าจะขอยกเลิกที่สาธารณะ เพื่อให้วัดทำกำแพงแก้วรอบโบสถ์ได้ หนูไม่เห็นด้วย เพราะชาวบ้านใช้เป็นทางเดิน ทางรถวิ่งมาเกือบ 30 ปี และอีกอย่างหนูไม่อยากมีที่ดินติดกับวัดค่ะ และถนนสาธารณะนี้ก่อนเป็นถนน คนก็เดินผ่านทีของที่บ้านไม่รู้กี่ชั่วอายุคน แต่วัดอ้างว่า การมีถนนผ่านหน้าโบสถ์ ทำให้โบสถ์แคบ เรื่องนี้มีทางแก้ไขอย่างไร ถ้าขยับที่สาธารณะได้ไหมคะ คือแทนที่ที่ดินส่วนหนึ่งของวัดที่ติดกับที่แม่หนูแล้วคั้นด้วยถนน แล้วจึงเป็นวัด แล้วสลับเพื่อให้ที่วัดเป็นผืนเดียวกัน แล้วถนนคั่นระหว่างที่วัดกับที่แม่หนูจะได้หรือเปล่าคะ
หนูสงสัยว่า ถ้าหนูยอมให้เขามารังวัดที่ดินแม่หนูใหม่ ทั้งที่ไม่จำเป็น จะมีผลทำให้เสียเปรียบอย่างไร เพราะค่อนข้างจะรู้สึกว่าวัดตุกติก และเจ้าหน้าที่ใหญ่ ๆ พยายามจะช่วยวัด ทั้งที่ชาวบ้านต่างไม่เคยไปรุกที่วัด ต่างทำมาหากินไปตามสภาพ และวัดก็มีที่มากมาย ทั้งซื้อเพิ่ม ทั้งพยายามจะหาหลักฐานโน่นนี่เพื่อออกโฉนดตามต้องการ และเอกสารทับซ้อนที่ชาวบ้าน
รบกวนช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
เล็ก
เมื่อเป็นที่ดินของคุณ ใครก็ไม่มีสิทธิมารังวัดได้ ถ้าวัดจะรังวัดก็ต้องรังวัดที่ดินของวัด
สำหรับถนนสาธารณะที่คุณยกให้เป็นทางสาธารณะนั้น วัดก็มาเอาไปหรือขยายกำแพงมาไม่ได้ ถ้าวัดทำคุณก็ไปแจ้งต่อตำรวจ
เมื่อรู้สึกว่าเขาตุกติกก็อย่ายอมให้มารังวัด และอย่าเผลอลงชื่อในเอกสารอะไรที่ยังไม่ได้อ่าน ถึงเจ้าอาวาสจะมาขอให้เซ็นก็ต้องอ่านดูเสียก่อน ถึงท่านจะบอกว่าไม่ไว้ใจอาตมาหรือไง ก็ตอบไปว่า ถ้าหนูไม่รู้ว่ามีข้อความว่าอย่างไร จะลงชื่อได้อย่างไร และเมื่ออ่านแล้วถ้าไม่แน่ใจหรือเป็นการมอบอำนาจให้เขาไปทำอะไร ก็อย่าลงชื่อเป็นอันขาด